ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เยือนชุมชนขาวเลพร้อมพบปะเครือข่ายชาติพันธุ์ชาวเล 5 จังหวัดอันดามัน
22 พ.ย. 2567

   ณ ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางไปยังอำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ โดยได้เยี่ยมชมนิทรรศการ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปถึงประวัติความเป็นมาและวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล พร้อมพบปะเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล 5 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต และสตูล และภาคีองค์กรเครือข่ายด้านชาติพันธุ์  ณ บริเวณสถานที่จัดงานสถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลโต๊ะบาหลิว ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ โอกาสนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้/ชมการสาธิตการทำอาหารโดยเชฟชาวเล 3 เผ่า พร้อมได้ชิมอาหารทะเลสด ๆโดยเชฟชาวเล และร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลด้วย
ก่อนหน้านั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เดินทางไปเยี่ยมชุมชนชาวอูรักลาโวยจ บ้านสังกาอู้ ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ พร้อมรับฟังชุมชนนำเสนอการจัดการข้อมูลที่สำคัญนำไปสู่ความสำเร็จในการจัดทำข้อมูลสนับสนุนการขับเคลื่อนเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล ตามมติคณะรัฐมนตรี 2 มิถุนายน 2553  ด้วย

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า “กระทรวงวัฒนธรรมได้นำเสนอแนวคิดการกำหนดเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ไว้ในแนวนโยบายฟื้นฟูวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล ตามมติคณะรัฐมนนตรี 2 มิถุนายน 2553 และแนวนโยบายฟื้นฟูวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยง ตามมติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553 โดยมุ่งหวังจะให้เป็นแนวทางคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรมและส่งเสริมศักยภาพพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ในการใช้ทุนวัฒนธรรมเป็นฐานในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี วันนี้ดิฉันได้มาพบปะพี่น้องชาวชาวเลอูรักลาโวยจฺ บ้านสังกาอู้ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ และได้รับฟังว่าที่นี่เป็นชุมชนชาวเลแห่งสำคัญที่คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดทำข้อมูลชุมชนเพื่อเสนอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมข้อมูลการจัดทำเขตพื้นที่คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ลำดับที่ 24 ที่จะประกาศขึ้นที่ชุมชนโต๊ะบาหลิว อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ในวันที่ 22 พฤศจิกายน2567 นี้ โดยที่ผ่านมาชุมชนได้มีการจัดการแบบมีส่วนร่วมและประสานประโยชน์กันระหว่างชุมชนและส่วนราชการต่าง ๆ มีการรวมกลุ่มในชุมชนเพื่อทำประมง เนื่องจากในอ่าวที่ชุมชนอาศัยอยู่มีการยกร่องทะเลเพื่อทำเป็นท่าจอดเรือร่วมกัน จึงมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมกลางบริเวณริมหาดทำให้มีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น ดิฉันรู้สึกได้ว่าพี่น้องที่นี่มีความมั่นใจและภาคภูมิใจในความเป็นชาติพันธุ์อูรักลาโวยจฺ และนี่เป็นแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน กระทรวงวัฒนธรรมจึงได้กำหนดไว้เป็นสาระสำคัญในร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์เพื่อที่จะได้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป” 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล กล่าวด้วยว่า “รัฐบาลนี้เห็นความสำคัญของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ และพร้อมส่งเสริมศักยภาพของพี่น้องชาติพันธุ์ ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ดิฉันกำกับการขับเคลื่อนกฎหมายชาติพันธุ์อย่างใกล้ชิด ดิฉันมาวันนี้นอกจากจะมาแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวสังกาอู้ที่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยจัดทำข้อมูลชุมชนในการกำหนดเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์แล้ว ดิฉันยังมาเพื่อเป็นกำลังใจให้พี่น้องชุมชนสังกาอู้ร่วมใจกันสนับสนุนและส่งเสริมให้ชุมชนชาติพันธุ์ในฐานะชุมชนดั้งเดิมมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อให้กลุ่มชาติพันธุ์สามารถดำรงวิถีการทำมาหากินบนฐานภูมิปัญญาและมรดกทางวัฒนธรรมควบคู่ไปกับการผสานองค์ความรู้ใหม่ เพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนด้วยทุนทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพและทุนวัฒนธรรมที่หลากหลายด้วย”.

ส่วนวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงานรวมญาติชาติพันธ์ชาวเล ครั้งที่ 14 และการสถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว ณ ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว หมู่ที่ 1 ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ พร้อมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ “คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว” ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเวลา 15.00 น. นางสาวสุดาวรรณ  หวังศุภกิจโกศล  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และคณะ เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน  จังหวัดกระบี่ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ตามลำดับ..//////////

กระบี่/0979188787

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...