บริษัท แปซิฟิค โลจิสติกส์ โปร จำกัด ได้รับบริการจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ในการยกระดับระบบขนส่งสินค้าควบคุมความเย็นด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านการเข้าร่วมโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขัน (Manufacturing Development to Improve Competitiveness Programme: MDICP) ช่วยลดข้อผิดพลาด ประหยัดต้นทุนกว่า 3 แสนบาทต่อปี พร้อมเดินหน้าสู่การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ไม่ต่ำกว่า 15% และเตรียมพร้อมเข้าร่วมโครงการด้าน ESG เพื่อความยั่งยืนในอนาคต
นายประทิตย์ วงศ์พิมายคราม รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท แปซิฟิค โลจิสติกส์ โปร จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้าที่ต้องควบคุมความเย็นตั้งแต่ผักผลไม้ทั่วไปที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ไปจนถึงสินค้าอาหารแช่แข็งที่ต้องใช้อุณหภูมิติดลบ 18 – 20 องศาเซลเซียส รวมทั้งการขนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบปัญหาในด้านการสื่อสารข้อมูลกับลูกค้า เนื่องจากที่ผ่านมาใช้ส่งข้อความรายละเอียดของรถ คนขับรถ และสินค้า ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ที่ใช้ต้องใช้พนักงานในการส่งข้อมูล แต่ประสบปัญหาการส่งข้อมูลไม่ครบ ตกหล่น และต้องเสียเวลาส่งข้อมูลวันละกว่า 1 ชั่วโมง จึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขัน หรือ MDICP ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เพื่อปรับปรุงพัฒนาด้านดิจิทัล และระบบไอทีต่าง ๆ ในการติดต่อประสานงานระหว่างบริษัทฯกับลูกค้า และรถขนส่ง
หลังจากเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ดีพร้อมได้นำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาปรับปรุงระบบจากเดิมผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์เป็นระบบอัตโนมัติที่สามารถนำส่งข้อมูลการขนส่งให้ทั้งลูกค้า และคนขับรถพร้อม ๆ กัน ทำให้สามารถประหยัดต้นทุนได้กว่า 3 แสนบาทต่อปี จากการลดความผิดพลาดด้านขนส่ง เช่น การปรับอุณหภูมิห้องเย็นให้เหมาะสมกับสินค้า ช่วยลดความเสียหายของสินค้าไปได้มาก และยังช่วยประหยัดพลังงาน โดยในอนาคตจะนำระบบเอไอ เข้ามาช่วยในการคำนวณเส้นทางการขนส่ง และจัดตารางการเดินรถ ซึ่งคาดว่าจะช่วยประหยัดพลังงานและเวลาได้มากขึ้น
“ผู้เชี่ยวชาญจาก ดีพร้อม ใส่ใจในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก และให้เวลาในการให้คำปรึกษานานถึง 14 – 15 วัน มากกว่าโครงการของหน่วยงานอื่น ๆ ที่ให้เวลาเพียง 2 – 3 วัน ทำให้มีเวลาดำเนินงานจำกัด ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ของดีพร้อมอีกหลายโครงการ” นายประทิตย์กล่าว
นายประทิตย์ เพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เข้าร่วมโครงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพื่อให้ได้ใบรับรองด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถตรวจวัดการปล่อยคาร์บอนในแต่ละปีว่ามีปริมาณเท่าไร เพื่อนำไปวางแผนลดการปล่อยคาร์บอนให้น้อยลงในทุก ๆ ปี ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะช่วยลดการปล่ายคาร์บอนได้ไม่ต่ำกว่า 15% โดยสิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องยืนยันถึงมาตรฐานของบริษัทฯ ที่มีความเข้มงวดในด้านสิ่งแวดล้อม และมุ่งลดการปล่อยคาร์บอนลงให้ได้มากที่สุด
โดยสิ่งที่แรกที่ทำได้ทันที คือ การอบรม และสร้างแรงจูงใจให้คนขับรถเข้มงวดดูแลในการบำรุงรักษารถให้ประหยัดการใช้พลังงานให้ได้มากที่สุด เช่น การทำความสะอาดไส้กรองแอร์ในเครื่องทำความเย็นของรถห้องเย็น การเติมลมยางให้มีความดันที่ถูกต้อง การใช้ความเร็วที่เหมาะสม การไม่ติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ และในด้านอื่น ๆ ส่วนในระยะต่อไปจะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาปรับปรุงการดำเนินงานให้มากขึ้น เพื่อให้ทุกขั้นตอนการดำเนินงานของบริษัทฯ สามารถลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้มากที่สุด ส่วนในอนาคต มีแผนที่จะเข้าร่วมโครงการด้าน ESG ของ ดีพร้อม เพื่อยกระดับองค์กรกรทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และด้านธรรมาภิบาล นายประทิตย์ กล่าวทิ้งท้าย