วันที่ 27 มีนาคม 2561 เวลา 11.00 น. นายหลี สาเมาะ ประธานเครือข่ายคนเทพาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดร.พณวรรธน์ พงศ์ประยูร เลขาเครือข่ายฯ นายมะนาวี มะ ผู้นำชุมชน นำประชาชนอำเภอเทพา กว่า 60 คน เดินทางมาที่กระทรวงพลังงานเพื่อขอพบนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทวงถามคำตอบเรื่องการยกเลิก MOU กับ NGO เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ที่หน้าองค์การสหประชาชาติ โดยขอให้กระทรวงพลังงานส่งผู้แทนที่ตัดสินใจได้มาเจรจา หากไม่ได้การตอบรับที่น่าพอใจจะนอนที่กระทรวงพลังงานทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูกระทรวงพลังงานไม่ยอมให้ประชาชนที่สนับสนุนโรงไฟฟ้าเทพาเข้าไปในกระทรวง
นายหลี สาเมาะ ประธานเครือข่ายคนเทพาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มภาคีเครือข่ายต่างๆ ในอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ประกอบด้วยกำนัน องค์การบริหารส่วนตำบล ทั้ง 7 ตำบล องค์กรภาคประชาชน ชมรม สมาคม กลุ่มเครือข่ายต่าง ๆ รวม 66 องค์กร มีสมาชิกกว่า 50,000 กล่าวว่า อยากได้โรงไฟฟ้าเทพา รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับเสียงของชุมชนไปกระทรวงพลังงาน ให้สัญญาว่าจะติดต่อกลับ แต่เมื่อติดต่อมาแล้วไม่ได้คำตอบ จึงหมดหวังกับกระทรวงพลังงาน การลงนาม MOU ระหว่าง NGO กับกระทรวงพลังงาน เป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรม ไม่ฟังเสียงของคนทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ฟังเสียงของคนในพื้นที่ ทำไมรัฐบาลถึงไปให้ความสำคัญกับฝ่ายที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ชาวเทพายืนยันอยากได้โรงไฟฟ้าไม่กลังผลกระทบ ต้องการความมั่นคงด้านพลังงานและความเจริญให้กับประเทศและใน 3 จังหวัดภาคใต้ แต่กลุ่ม NGO สร้างประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติบ้าง มีแต่รับผลประโยชน์มีผู้สนับสนุนเบื้องหลัง ปลัด จ.สงขลา ก็ได้มายืนยันมาแล้วว่าคนคัดค้านมีคนเทพาที่แท้จริงไม่กี่คน การทำงานต้องยึดหลักประชาธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก วันนี้หากไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจจะไม่กลับจะนอกปักหลักอยู่ที่กระทรวงพลังงาน
ดร.พณวรรธน์ พงศ์ประยูร เลขาเครือข่ายคนเทพาฯ กล่าวว่า ครือข่ายฯได้แสดงจุดยืนว่า ขอให้ยกเลิก MOU และเดินหน้า EHIA ท่าเทียบเรือ หากรัฐบาลมีข้อกังขาเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ขอชี้แจงว่า พื้นที่เทพามีความยากจน มีรายได้น้อย ประชากรที่เป็นเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุมีมาก เพราะบุคคลวัยทำงานออกไปทำงานนอกพื้นที่ คนเทพา คิดเอง ทำเองได้ ไม่ต้องให้คนอื่นมาตัดสินใจให้ คนเทพมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและร่วมทำ EHIA มาโดยตลอด และ กฟผ. ทำตามขั้นตอน และ กฎหมายทุกประการ ให้เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าเทพาต่อไป