ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
ประเสริฐ สั่งเบรกคดีชาวบ้านรุกพื้นที่แนวเขตพิพาททับลาน
21 ธ.ค. 2567

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 67 ที่ศาลาประชาคมอเนกประสงค์เทศบาลตำบลครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามการตรวจราชการการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) พร้อมรับฟังปัญหาเกี่ยวกับแนวเขตที่ดินทับซ้อนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.)   โดยมีประชาชนในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ ประกอบด้วย อ.ครบุรี อ.ปักธงชัย อ.วังน้ำเขียว และอำเภอเสิงสาง เข้าร่วมกว่า 1,000 คน
นายประเสริฐฯ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ทำงานหนักเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และขอเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ โปร่งใส และยั่งยืน และได้เร่งรัดให้ทุกหน่วยงานดำเนินการ ตัวเองในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และกำกับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ ที่ดิน และทรัพยากรน้ำ  ได้กำกับการดำเนินงานของทุกหน่วยอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับพี่น้องประชาชน และขอให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการดำเนินงานจัดการปัญหานี้อย่างเร่งด่วน
ในกรณีของปัญหาเรื่องของแนวเขตที่ดินทำกินทับซ้อนระหว่างพื้นที่ทำกินของชาวบ้านและอุทยานแห่งชาติทับลานนั้น ถือเป็นปัญหาเรื้อรังมานานร่วม 40 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้เคยมีมติ ครม.เมื่อปี พ.ศ.2543 เกี่ยวกับการสำรวจแนวเขตใหม่ให้มีความชัดเจน  เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาข้อพิพาทนี้ให้หมดไป แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้ข้อยุติ  อีกทั้งยังมีการดำเนินคดีกับชาวบ้านในพื้นที่ที่ยังมีปัญหากันมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้ตัวเองจึงได้มอบนโยบายให้ทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.)    จัดตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมา เพื่อเป็นคณะกรรมการทำงานในเรื่องของการเยียวยา  และให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ชะลอการดำเนินคดีเรื่องของการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานที่ยังเป็นปัญหาไปก่อนหน้านี้ออกไปก่อน จนกว่าจะได้ข้อยุติเกี่ยวกับแนวเขตที่ชัดเจน  ซึ่งในเรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกันกับทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งดูแลรับผิดชอบในเรื่องนี้อยู่  และเรื่องนี้ต้องมีการใช้เหตุใช้ผล ในการที่จะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน  และการใช้เหตุใช้ผลนั้นต้องดูความเห็นของหน่วยงานอื่นประกอบด้วย อย่างเช่นสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งก็เคยลงพื้นที่ศึกษาข้อมูลข้อเท็จจริงและเคยให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้เอาไว้แล้ว  ซึ่งจะเริ่มมีการจัดตั้งองค์กรอิสระและมีการพูดคุยเกี่ยวเรื่องนี้อย่างจริงจังในวันที่ 24 ธ.ค.นี้
ขณะเดียวกันในเรื่องของแผน Onemap การกำหนดแนวเขตแผนที่ชัดเจน ซึ่งเป็นนโยบายของทางรัฐบาล ที่มีความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนให้ระบบแผนที่ Onemap ให้สมบูรณ์เสร็จสิ้นโดยเร็ว ทั้งในส่วนของทับลานและพื้นที่อื่นทั่วประเทศ ซึ่งตอนนี้ได้ดำเนินการคืบหน้าไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในอีก 3 ปีข้างหน้า เนื่องพื้นที่ดำเนินการนั้นมีเป็นจำนวนมาก ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาและดำเนินการ
ทั้งนี้ในส่วนของการความคืบหน้าในการดำเนินงาน การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน การจัดสรรที่ดินให้กับประชาชน และแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาที่ดินอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ตามนโยบายรัฐบาล โดยได้มีการดำเนินการปรับปรุง แผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐในมาตราส่วน 1:4000 ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาความทับซ้อนระหว่างหน่วยงานรัฐและที่ดินทำกินของประชาชน สำหรับจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อยู่ในกลุ่มที่ 3 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ (One Map) และให้หน่วยงานที่มีที่ดินของรัฐอยู่ในความรับผิดชอบปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับ One Map ให้แล้วเสร็จภายใน 360 วัน ตามรายงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.)    พบว่า หากเมื่อมีการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ (One Map) แล้วจะมีที่ดินของรัฐ ดังนี้
- จังหวัดชัยภูมิ มีที่ดินของรัฐ ก่อน One Map 9,884,075.87 ไร่ หลัง One Map 5,011,345.74 ไร่
- จังหวัดสุรินทร์ มีที่ดินของรัฐ ก่อน One Map 4,828,657.50 ไร่ หลัง One Map 2,759,419.92 ไร่
- จังหวัดบุรีรัมย์ มีที่ดินของรัฐ ก่อน One Map 6,057,885.44 ไร่ หลัง One Map 3,007,098.59 ไร่
- จังหวัดนครราชสีมา มีที่ดินของรัฐ ก่อน One Map 17,140,824.63 ไร่ หลัง One Map 7,568,029.58 ไร่
 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 28 กุมภาพันธ์ 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
13 ม.ค. 2568
ตามรายงานของศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสิงคโปร์ (thaibizsingapore.com) ระบุว่า สิงคโปร์เป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 8 ของไทย และไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 10 ของสิงคโปร์ จากสถิติของกระทรวงพาณิชย์และกรมศุลกากร ปริมาณการค้าไทย-สิงคโปร์ ปี 2565 มีมูลค่ารวม 644,383 ...