ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
สธ.แจงต่างด้าวไปร.พ.ต้องจ่ายเองยกเว้น3กรณีเท่านั้น
22 ธ.ค. 2567

นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกระแสสังคมที่ห่วงใยต่อระบบสาธารณสุขประเทศไทย จากกรณีประชากรข้ามชาติแห่คลอดลูกและใช้สิทธิรักษาฟรี ว่า ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยปฏิบัติตามกฎหมายที่บัญญัติไว้และเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในการดูแลรักษาทุกคนบนผืนแผ่นดินไทย โดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา และความเชื่อ ครอบคลุมผู้ที่กำลังดำเนินการพิสูจน์สัญชาติไทยด้วย

ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยจัดตั้งกองทุนต่างๆ รวมถึงมีเครือข่ายองค์กรนานาชาติให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามความเหมาะสม เบื้องต้นมีการจัดการสิทธิในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีสัญชาติไทย 3 ส่วน ได้แก่

1.บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิหรือบุคคลไร้รัฐ ซึ่งเป็นบุคคลที่กำลังดำเนินการพิสูจน์สัญชาติไทย และได้รับเลขประจำตัว 13 หลัก จากกระทรวงมหาดไทย และปรากฏรายการบุคคลในฐานข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย กลุ่มนี้จะมีสิทธิในการเข้าถึงบริการสาธารณสุข โดยใช้กองทุนประกันสุขภาพบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ (ท.99) ซึ่งรัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปัจจุบันมีผู้ขึ้นทะเบียนกับกองทุน 723,603 คน

2.แรงงานต่างด้าวที่ลงทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและมีใบอนุญาตทำงาน นายจ้างจะส่งเข้าประกันสังคมแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ การรักษาพยาบาล เงินทดแทนรายได้กรณีเจ็บป่วย คลอดบุตร ชราภาพ และสิทธิในกรณีว่างงาน

3.กองทุนประกันสุขภาพคนต่างด้าวและแรงงานต่างด้าว กระทรวงสาธารณสุข หรือการซื้อประกันสุขภาพของแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะมีการตรวจสุขภาพและทำประกันสุขภาพให้แก่แรงงานต่างด้าวสัญชาติลาว เมียนมา และกัมพูชา ที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมหรือกำลังรอสิทธิ รวมทั้งผู้ติดตามแรงงานต่างด้าว โดยอายุความคุ้มครองจะแตกต่างกันไปตามค่าประกันสุขภาพ ทำให้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ การเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรค และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายการให้บริการของสถานพยาบาล

นพ.มณเฑียร กล่าวว่า สำหรับกลุ่มที่จะได้รับการดูแลจากกองทุนประกันสุขภาพบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ หรือ ท.99 นั้น เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา กองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้มีหนังสือแจ้งซักซ้อมแนวทางการขึ้นทะเบียนบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

โดยกลุ่มบุคคลที่สามารถขอรับสิทธิได้ จะต้องได้รับเลขประจำตัว 13 หลัก จากกระทรวงมหาดไทย ตามมติ ครม. ที่กำหนดให้การขึ้นทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ทางด้านสุขภาพ ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์สัญชาติตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด และต้องยื่นหลักฐาน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวบุคคล ทะเบียนบ้าน และหนังสือรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการหารือร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบต่อไป

"ส่วนกลุ่มผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมหรือประกันสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข และไม่ใช่บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิตามที่มติ ครม.กำหนด หากเข้ารับบริการสาธารณสุขจะต้องชำระค่าบริการเอง"

"อย่างไรก็ตาม บางส่วนที่ไม่สามารถชำระค่าบริการได้ อาจขอความอนุเคราะห์ค่ารักษาพยาบาล โดยหน่วยบริการจะพิจารณาตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งค่ารักษาพยาบาลส่วนที่เรียกเก็บไม่ได้นี้ จะมีงบประมาณจากเครือข่ายองค์กรนานาชาติให้การสนับสนุนส่วนหนึ่ง" นพ.มณเฑียร กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 28 กุมภาพันธ์ 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
13 ม.ค. 2568
ตามรายงานของศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสิงคโปร์ (thaibizsingapore.com) ระบุว่า สิงคโปร์เป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 8 ของไทย และไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 10 ของสิงคโปร์ จากสถิติของกระทรวงพาณิชย์และกรมศุลกากร ปริมาณการค้าไทย-สิงคโปร์ ปี 2565 มีมูลค่ารวม 644,383 ...