เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ปลูกพริกแดงบ้านมะค่า หมู่ที่ 4 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ต้องว่าจ้างคนงานมาช่วยกันเก็บพริกสด เพื่อนำไปตากแห้งแทนการส่งขายตามท้องตลาดเหมือนเช่นเคย เนื่องจากตอนนี้ราคาพริกสดกำลังตกต่ำอย่างมาก ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน เพราะต้องค่าต้นทุนว่าจ้างแรงงานรวมไปถึงค่าถุง และค่าน้ำมันรถเดินทางไปส่งตลาดก็ไม่เหลือเงินจากการเก็บพริกจำหน่ายแล้ว จนทำให้ตอนนี้หน้าบ้านแทบทุกหลังคาเรือนเต็มไปด้วยพริกแดงที่เกษตรกรนำมาตากแดดเพื่อเก็บเอาไว้ขายเป็นพริกแห้งในยามที่พริกพอมีราคาปรับตัวสูงขึ้นบ้าง
อย่างเช่นนางพยุง หาวกระโทก อายุ 53 ปี หนึ่งในเกษตรกรผู้ปลูกพริกบ้านมะค่า ที่บอกว่า ตัวเองได้ลงทุนปลูกพริกแดงเอาไว้ 4 ไร่ โดยเริ่มปลูกในช่วงหน้าฝน เพื่อให้เข้าสู่ช่วงออกผลผลิตหน้าหนาว เนื่องจากเป็นช่วงที่พริกจะให้ผลผลิตดีและมีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของท้องตลาด ซึ่งปีนี้ก็ได้ผลผลิตก็พอได้บ้าง แต่ในเรื่องของราคานั้นตกต่ำอย่างมาก เพราะปกติแล้งราคาพริกช่วงนี้น่าจะอยู่ประมาณ 40 – 50 บาท ต่อกิโลกรัม ซึ่งถือเป็นราคาที่เกษตรกรจะพอคุ้มค่าในการลงทุน แต่ตอนนี้ราคาพริกอยู่ที่ประมาณ 18 – 20 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น เฉพาะการลงทุนค่าแรงคนงานเก็บพริกตอนนี้ก็กิโลกรัมละ 10 บาทแล้ว ไม่ต้องพูดถึงค่าเงินลงทุนมาตั้งแต่เริ่มปลูกมากว่า 2 เดือน ทั้งค่าเมล็ด ค่าปุ๋ย ค่ายา และอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงค่าแพ็กบรรจุถุง รวมถึงค่าจ้างรถและค่านำมันในการขนส่งที่ต้องจ่ายอีกในแต่ละเที่ยว
ตอนนี้ส่วนใหญ่จึงตัดสินใจที่จะเก็บพริกที่กำลังให้ผลผลิตตอนนี้ ไปตากแห้งเพื่อเก็บไว้ขายแทน ซึ่งก็ยังพอที่จะตุนเอาไว้ขายในช่วงที่มีราคาได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จำเป็นที่จะต้องนำเงินมาใช้ในการลงทุนรอบใหม่ รวมถึงใช้หนี้สินที่กู้ยืมมา ก็จำใจต้องจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 100 บาท โดยพริกสด 3 กิโลกรัม จึงจะได้พริกแห้ง 1 กิโลกรัม ถึงจะพอได้กำไรขึ้นมาบ้าง
สมพล พัฒนคุณานนท์ จ.นครราชสีมา กัมปนาท ฉายผาด ผช. รายงาน