วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2568
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
กาญจนบุรี - สสจ.กาญจน์ แนะประชาชนป้องกันภัยสุขภาพจาก ฝุ่น PM 2.5 ร่วมรณรงค์ลดฝุ่น ลดการเผาในที่โล่ง
09 ม.ค. 2568
เพื่อสุขภาวะที่ดี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีมีความห่วงใยในสุขภาพของประชาชนจากภัยสุขภาพ ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PIM 2.5) ขอความร่วมมือประชาชนและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PMM 2.5 และร่วมรณรงค์ลดฝุ่นด้วยการทำความสะอาดบ้าน บ่อยๆ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นภายในบ้าน ลดการเผาในที่โล่ง เพื่อสุขภาวะที่ดี
วันนี้ 09 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ธีรพจน์ ฟักน้อย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัตกาญจนบุรี มอบหมายให้นายรังสีมันต์ ทองสวัสดิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีเป็นประธานการอบรมพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการสื่อสารสุขภาพจังหวัดกาญจนบุรี ปี 2568 และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุก สร้างความรอบรู้ในการเฝ้าระวังภัยสุขภาพจาก ฝัน PM 2.5 ซึ่งสถานการณ์ฝุ่นละละอองชนาดเล็ก PM 2.5 ของจังหวัดกาญจนบุรี มีแนวโน้มสูงเกินค่ามาตรฐานในช่วงปลายปี ตั้งแต่เดือนธันวาคม - เมษายนของทุกปี สาเหตุนอกจากสภาพอากาศที่ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว ยังเกิดจากการเมาไร่อ้อย ไฟไหม้ป่า การจุดเผาในที่โล่งแจ้ง การใช้ยานพาหนะเครื่องยนต์ที่ไม่ผ่านมาตรฐานโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลเป็นหลักในการคนาคม ขนส่งมวลชน โรงงานอุตสาหกรรม โรงงานน้ำตาล ชาดความ
ร่วมมือจากเกษตรกรขาวไร่อ้อยในบางพื้นที่ยังคงมีการเผาไร่อ้อยในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งเก็บเกี่ยวผลิตเข้าสู่โรงงานน้ำตาล ขณะนี้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นและเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยโมพื้นที่จังหวัดกาญจบบุรี ขณะนี้ สถานการณ์อยู่ในระดับปานกลางจนถึงระดับที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพเนื่องจาก PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งชนาดที่เล็กมากนี้จะสามารถหลุตรอดการกรองของของขนจมูก ผ่านเข้าสู่ทางเดินหายใจเข้าไปยังลม ฝ่อยและแทรกซึม ผ่านเข้าไปยังหลอตเลือดฝอย และเข้าสู่กระแสเลือดได้ ทำให้เกิดโรคในหลายระบบ ผลกระทบต่อสุขภาพของ Pm 2.5
1. ระบบทางเดินหายใจ : ทางเตินหายใจอักเสบหายใจลำบาก แสบ จมูก ไอมีเสมหะ แน่นหน้าอก ถุงลมแฟบ สมรรถภาพปอตลตลง ภูมิแพ้และหืดกำเริบ
2. ระบบหัวใจและหลอดเลือด : อาจเกิดโรคหัวใจขาตเลือด โรคอัมพาตจากหลอดเลือดสมอง
3. ระบบตา : ระคายเคืองตา ตาอักเสบ
4. ระบบผิวหนัง : คันตามตัว มีผื่น ผู้ป่วยกลุ่มโรคที่ต้องเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็กPMo 2.5 ใน 4 กลุ่มโรค พบกลุ่มโรคทางเดินหายใจ มากที่สุด จำนวน 95,896 ราย รองลงลงมาเป็นกลุ่มโรคผิวหนิวหนังอักเสบ จำนวน 46,3001 ราย กลุ่มโรคตาอักเสบ จำนวน 75,500 ราย และกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด จำนวน114 ราย ตามลำดับ โดยพบกลุ่มโรคทางตีนหายใจมากที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม 2566 อากาศมีการเปลี่ยนแปลงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว
ดังนั้นจึงขอแนะนำการปฏิบัติตัวของประชาชนในการป้องกันตนเองจากฝุ่น PM 2.5 โดยหลีหลีกเสี่ยงการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็นโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคหัวโจและหลอดเลือด หรือใส่หน้ากาก Nor 95 ป้องกันฝุ่นเมื่อออกนอกบ้าน หากไม่มีให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี คือ คลุมจมูกลงมาถึงใต้คางและต้องแนบสนิทกับใบหน้า ให้ทำความสะอาดบ้าน บ่อยๆ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นภายในบ้าน และงดทำกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 เช่น การเผาขยะ การเผาหญ้า การจอตรถติดเครื่องยนต์ไว้เป็นระยะเวลานานๆ หมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้อยู่ในสภาพปกติไม่ก่อควันดำ
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนสังเกตตตนเอง หากพบว่ามีอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น อาการไอเรื้อรัง แน่นหน้าอก ระคายเคืองตา คัดจมูก หายใจไม่สะตวก ผิวหนังเป็นตุ่มหรือผืนนูนแดง ควรปรึกษาแพทย์ทันที และที่สำคัญควรติดตามข้อมูลข่าวสารด้านมลพิษทางอากาศเป็นประจำ เพื่อป้องกับฝุ่นละอองและความปลอดภัยต่อสุขภาพด้วย
///////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
