เมื่อวันที่ 9 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานปริมาณน้ำภายในคลองลำแชะ ที่ไหลผ่านช่วงอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา เริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง จนมีแห้งขอดในบางช่วง อย่างเช่นช่วงบริเวณที่ไหลผ่านตำบลอรพิมพ์และตำบลครบุรี ปริมาณน้ำเหลืออยู่ในลำน้ำส่วนใหญ่เหลือไม่ถึง 1 ใน 3 และมีแห้งขอดเป็นช่วงๆ เนื่องจากตลอดสองฝั่งของลำน้ำ มีการสูบน้ำทำนาปรับกันแทบทั้งหมดแม้ว่าชาวนาในพื้นที่จะรู้ดีว่าปีนี้ทางเขื่อนลำแชะ และเขื่อนมูลบน ซึ่งเป็นเขื่อนต้นน้ำ จะเหลือน้ำไม่เพียงพอที่จะส่งให้กับเกษตรกรได้เพาะปลูกข้าวนาปรับก็ตาม
อย่างเช่นนายสุทัศน์ บุญพรม หนึ่งในชาวนาบ้านนาราก หมู่ที่ 7 ต.อรพิมพ์ อ.ครบุรี ที่บอกว่า แม้ปีนี้จะได้รับข้อมูลมาว่าทางเขื่อนลำแชะ ซึ่งเป็นเขื่อนต้นน้ำของอำเภอครบุรี จะไม่มีน้ำเพียงพอส่งให้ทำนาปรัง แต่ชาวนาหลายคนที่มีที่นาติดกับลำคลองธรรมชาติ ก็อยากจะลองวัดดวงเสี่ยงดู เพราะตอนนี้ราคาข้าวก็ถือว่าค่อนข้างดี อีกทั้งยังมีพันธุ์ข้าวที่ได้จากการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีมาก่อนหน้านี้ จึงทำให้สามารถลดภาระการลงทุนได้ส่วนหนึ่ง อีกทั้งหากได้ผลผลิตก็จะมีข้าวเอาไว้ขายและยังมีพันธุ์ข้าวเอาไว้ในการทำปีในปีหน้า และหากคนอื่นที่อยู่ข้างเคียงที่นา ตัดสินใจสูบน้ำทำนาแล้ว แต่ตัวเองไม่ได้ทำ นาข้าวของตัวเองก็จะลง เพราะหญ้าจะโตจากความชื้นของนาที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้ต้นทุนในการเพาะปลูกข้าวนาปีเพิ่มขึ้นด้วย
ขณะที่สถานการณ์น้ำภายในเขื่อนลำแชะ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของอำเภอครบุรี และเป็น 1 ใน 4 เขื่อนหลักของจังหวัดนครราชสีมานั้น ทางนายพงศ์ฤทธิ์ ชื่นอารมณ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำแชะ ระบุว่า ล่าสุดตอนนี้มีปริมาณน้ำภายในเขื่อนอยู่ที่ประมาณ 146 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 53.4 ของความจุทั้งหมดที่ 275 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยทางเขื่อนจะไม่มีการส่งน้ำเพื่อสนับสนุนการทำนาปรัง แต่จะมีการส่งน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์ 2 รอบ คือในช่วงปลายเดือนมกราคม และในช่วงต้นเดือนเมษายน ตามความจำเป็นเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามประเมินว่าจะมีชาวนาที่ตัดสินใจลองเสี่ยงปลูกข้าวนาปรังไม่น้อยกว่า 30,000 ไร่
สมพล พัฒนคุณานนท์ จ.นครราชสีมา 0867206151
กัมปนาท ฉายผาด ผช. 0857771655