ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
กม.บ่อนคาสิโนจะเข้าครม.พรุ่งนี้หลังประชาพิจารณ์หนุน80%
12 ม.ค. 2568

มีรายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรงการคลัง จะนำร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ… (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 13 มกราคมนี้ โดยขั้นตอนหลังจากผ่านครม.แล้ว จะส่งร่างฯให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ก่อนเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร์พิจารณาต่อไป โดยไม่อาจระบุได้ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ ซึ่งเนื่อหาสาระของร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวเป็นร่างฉบับเดิม ที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ได้รับความเห็นชอบสูงถึง 80 %ซึ่ง ก่อนหน้านี้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการทำร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร ว่า กระทรวงการคลังได้มีการทำประชาพิจารณ์ ตัวร่างพ.ร.บ.เสร็จเรียบร้อยแล้ว และเข้าใจว่ามีคนที่เห็นชอบน่าจะสูงถึง 80% สิ่งที่ทำเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ให้มีการแก้ไขปรับปรุงใหม่คือ การจัดทำประชาพิจารณ์ โดยจะได้นำความคิดเห็นจากประชาพิจารณ์ ซึ่งมีหลายประเด็นที่ส่งความเห็นมา แล้วเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ก็จะนำไปปรับตามนั้น จากนั้นก็มีหน้าที่ในการส่งเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ทั้งนี้สำหรับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … ฉบับนี้ กำหนดประเภทธุรกิจสถานบันเทิงไว้ 10 ประเภท ได้แก่ 1.ห้างสรรพสินค้า 2.โรงแรม 3.ร้านอาหาร ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ หรือบาร์ 4.สนามกีฬา 5.ยอชต์และครูซซิ่งคลับ 6.สถานที่เล่นเกม 7.สระว่ายน้ำและสวนน้ำ 8.สวนสนุก 9.พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP และ 10.กิจการอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด นอกจากนั้นยังมีอัตราค่าธรรมเนียมภายใต้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว กำหนดว่า 1.การขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท 2.ใบอนุญาตครั้งแรก ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปีปีละ 1,000 ล้านบาท 3.ใบอนุญาต (ต่ออายุ) ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี 1,000 ล้านบาท 4.ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 100,000 บาท และ 5.ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ครั้งละ 5,000 บาท

ทั้งนี้กระทรวงการคลังยังให้เหตุผลประกอบว่า การพัฒนาสถานบันเทิงครบวงจร มีวัตถุประสงค์หลักในการแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกแบบครบวงจรและเป็นผู้นำการท่องเที่ยวในภูมิภาค โดยดึงเม็ดเงินลงทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศในการพัฒนาสถานที่ดังกล่าว ที่สำคัญการนำธุรกิจกาสิโนและการพนันผิดกฎหมายให้เข้ามาอยู่ในระบบอย่างมีมาตรฐานภายใต้การควบคุมของกฎหมาย จะทำให้มีการจัดเก็บรายได้และภาษีอย่างถูกต้อง และสามารถดึงเม็ดเงินนอกระบบของการพนันผิดกฎหมายจากคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศเพื่อเล่นการพนันให้มาใช้จ่ายภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งการประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 9,000-15,300 ตำแหน่ง และน่าจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 118,877-475,510 ล้านบาทต่อปี และรัฐบาลน่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร 12,037-39,427 ล้านบาทต่อปี

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มกราคม 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
13 ม.ค. 2568
ตามรายงานของศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสิงคโปร์ (thaibizsingapore.com) ระบุว่า สิงคโปร์เป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 8 ของไทย และไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 10 ของสิงคโปร์ จากสถิติของกระทรวงพาณิชย์และกรมศุลกากร ปริมาณการค้าไทย-สิงคโปร์ ปี 2565 มีมูลค่ารวม 644,383 ...