"พาณิชย์" เผยส่งออกไทยปี 67 ขยายตัว 5.4% มูลค่าทะลุ 3 แสนดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดแนวโน้มส่งออกปี 68 ขยายตัวได้ที่ 2-3%
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนธ.ค. 2567 มีมูลค่า 24,765.9 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 8.7% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ 10.4% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าทุนและวัตถุดิบของไทยในทุกหมวดและยังขยายตัวเกือบทุกตลาดส่งออกสำคัญ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายทางการค้าโลกในระยะข้างหน้า
ทั้งนี้ ภาพรวมการส่งออกทั้งปี 2567 ทำมูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยการส่งออกในรูปของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ พุ่งทะยานสู่ระดับ 300,529.5 ล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรก ขยายตัว 5.4% ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 306,809.8 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 6.3% ส่งผลให้ดุลการค้าของปี 2567 ขาดดุล 6,280.4 ล้านดอลลาร์
สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรในเดือนธ.ค.2567 ขยายตัว 8.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน โดยทั้งปี 2567 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 6.0% โดยสินค้าเกษตร ขยายตัว 10.7% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 6.7%
โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ยางพารา ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง อาหารสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และผลไม้กระป๋องและแปรรูป ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ข้าว และน้ำตาลทราย
ส่วนการการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.2567 ขยายตัว 11.1% ขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือน โดยทั้งปี 2567 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 5.9% โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ
ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด
ทั้งนี้ การส่งออกไปตลาดสำคัญส่วนใหญ่ขยายตัว ตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่เพิ่มขึ้น จากความกังวลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายทางการค้าโลกในระยะข้างหน้า ทั้งนี้ ภาพรวมการส่งออกไปยังกลุ่มตลาดต่างๆ โดยตลาดหลัก ขยายตัว 12.0% โดยขยายตัวในตลาดสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป (27) และ CLMV ขณะที่อาเซียน (5) หดตัว 0.6% ส่วนตลาดรอง ขยายตัว 6.2%
โดยขยายตัวในตลาดเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา รัสเซียและกลุ่ม CIS และสหราชอาณาจักร ขณะที่ตลาดทวีปออสเตรเลีย หดตัว 15.5% และตลาดอื่น ๆ หดตัว 65.3%
ขณะที่แนวโน้มการส่งออกในปี 2568 กระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกทั้งปี 2568 จะขยายตัวได้ที่ 2–3% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงในระดับปัจจุบัน แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ การย้ายฐานการผลิตมายังกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงไทยมากขึ้น และการเร่งส่งเสริมการใช้ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยเชื่อมโยงเข้ากับสินค้าส่งออกเพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้เป็นที่จดจำในระดับโลก
นอกจากนี้ มีปัจจัยท้าทายจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งกระทบกับบรรยากาศการค้าโลก ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อยาวนาน และความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์และวางแผนเตรียมความพร้อมร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การค้าไทยเติบโตอย่างยั่งยืน