ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช.รรท.รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.จตช./ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติ ที่เข้ามาแฝงตัวอยู่เพื่อก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ดังนั้น ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม.รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.ได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 68 พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผบก.ฯ รรท.ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ก้องเกียรติศิริ รอง ผบก.ฯ ปรก. รอง ผบก.ตม.1 พ.ต.ท.พรชัย สุขเจริญ รอง ผกก.สืบสวนบก.ตม.1 และ สืบ ตม.1 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาลักลอบปลูกกัญชาขาย
สืบเนื่องจาก กก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีกลุ่มบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม มีพฤติการณ์ต้องสงสัย รวมตัวกันภายในบ้าน ลักษณะปกปิดการกระทำความผิดบางอย่างและก่อความเดือดร้อนเรื่องกลิ่น เสียง ให้แก่ประชาชนในชุมชนโดยรอบบริเวณภายในซอยงามวงศ์วาน 32 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ลักลอบจัดตั้งสถานที่เพาะปลูกกัญชา เก็บของ เพื่อรอการจำหน่ายต่อไป จึงได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญาเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์เลขที่ 55/83-85 ซอยงามวงศ์วาน 32 ถ.งามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าวมีขนาด 3 คูหา จำนวน 4 ชั้น พบว่าที่บริเวณชั้น 1 ถูกดัดแปลงเป็นสถานที่เก็บปุ๋ยและห้องพักของคนงาน สามารถนอนได้อย่างน้อย 6-7 คน ส่วนชั้น 2-4 ของอาคารพาณิชย์ พบว่ามีการดัดแปลงให้เป็นห้องที่มีสภาพสำหรับเพาะปลูก มีการติดตั้งอุปกรณ์เพาะปลูก อุปกรณ์สำหรับปรับสภาพอากาศ ติดแอร์กับพัดลม และให้น้ำให้แสง โดยจากการตรวจค้นพบคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม ชื่อ Mr.NGUYEN NGOC จากการสอบถามผ่านล่ามรับว่า มาทำงานดูแล เพาะปลูกกัญชาได้ประมาณ 4 เดือน ได้รับค่าจ้างประมาณเดือนละ 20,000 บาท จากนายจ้างชาวไทยชื่อนายต้น (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) และผลจากการตรวจค้น พบ
1. ดอกกัญชา จำนวน 1 ถุง พบบริเวณชั้น 2 ห้องเล็ก
2. ต้นกัญชา
2.1 ต้นกัญชาที่ตัดช่อดอกแล้ว พบบริเวณ ชั้น 2 จำนวน 108 ต้น
2.2 ต้นกัญชาที่ยังไม่ออกช่อดอก พบบริเวณชั้น 2 ห้องกลาง จำนวน 136 ต้น และบริเวณชั้น 2 ห้องเล็ก จำนวน 455 ต้น (ต้นกล้า)
2.3 ต้นกัญชาที่ยังไม่ออกช่อดอก พบบริเวณชั้น 3 ห้องกลาง จำนวน 96 ต้น
2.4 ต้นกัญชาที่ออกช่อดอกแล้ว จำนวน 134 ต้น พบบริเวณ ชั้น 4
จึงควบคุมตัวพร้อมทำการแจ้งข้อกล่าวหา
1. “ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” พ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ
2. “จำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า (กัญชา) โดยไม่ได้รับใบอนุญาต พรบ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาฯ
และได้ทำการประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น และ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมทำการจับกุม ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่าอาคารหลังดังกล่าวขอใบอนุญาตปลูกกัญชาถูกต้องตามกฎหมายกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น ตัวนิติบุคคลผู้ครอบครองอาคารรวมทั้งแรงงานจะถูกดำเนินคดีฐานไม่มีใบอนุญาตแปรรูปและจัดจำหน่ายสำหรับการปลูกกัญชาที่มีพืชดอก โดยมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถ้าหากพบว่ามีการส่งออกกัญชาแปรรูปไปยังต่างประเทศ ก็จะมีความผิดเพิ่มขึ้น
ดังนั้นผู้ประกอบการที่คิดจะเพาะปลูกกัญชา โดยเฉพาะต้องการดอกกัญชามาใช้แปรรูปกับจัดจำหน่าย ต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานราชการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีค่าธรรมเนียมที่ไม่แพง รวมทั้งเป็นการควบคุมให้กัญชาที่เพาะปลูกขึ้นมานั้นจัดจำหน่ายอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการลักลอบจำหน่ายให้แก่เด็กและเยาวชนจนกลายเป็นปัญหาสังคมต่อไป
สตม. ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับและการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นหรือมีเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / รายงาน