“นายอำเภอบางละมุง" ประชุมผู้นำ อปท.ในพื้นที่ ขอความร่วมมือแก้ปัญหา PM2.5 พร้อมกำชับทุกหน่วย บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ห้ามเผาเด็ดขาด หากดึงดันโทษทั้งจำ ทั้งปรับ
(28 ม.ค.68) ที่ห้องประชุมบรรยายสรุป ที่ว่าการอำเภอบางละมุง นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง เป็นประธานการประชุมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) โดยมีผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สาธารณสุขอำเภอบางละมุง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
นายอำเภอบางละมุง กล่าวในที่ประชุมว่า สืบเนื่องจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ประสานจังหวัดปฏิบัติตามข้อสั่งการอย่างเคร่งครัดและยกระดับมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อย่างเร่งด่วนและลดผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่มีฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
ดังนั้นในวันนี้จึงจัดให้มีการประชุมอย่างเร่งด่วน เนื่องจากว่า จากข้อมูลที่ได้รับทราบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมป่าไม้ กรมฝนหลวง รายงานว่า ค่าฝุน PM 2.5 ตอนนี้ เทียบโหมโรงของทุกปี หากดูตามสถิติย้อนหลัง ในช่วงปลายเดือนมกราคมเพิ่งจะขึ้น และจะพีคตอนเดือน กุมภาพันธ์ มีนาคม และจะเริ่มลดลงหลังจากกลางเดือนเมษายนเป็นต้นไป ในขณะที่พื้นที่อำเภอบางละมุง จะสังเกตเห็นได้ว่ามองไปฝั่งทะเลไม่เห็นเส้นขอบฟ้าที่ตัดกับผืนน้ำทะเล แค่นี้ก็รู้สึกได้ว่า ค่าฝุ่น PM 2.5 ค่อนข้างรุนแรง แม้ว่าจังหวัดชลบุรีจะมีค่า PM 2.5 ไม่ได้ติดใน 1 ใน 20 ของประเทศไทยก็ตาม แต่ก็เป็นปัญหาที่ควบคุมได้ยาก
ซึ่งในเรื่องดังกล่าว นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงมีนโยบายให้ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ว่ากิจกรรมใดบ้างที่จะมีผลกระทบต่อเนื่องจนทำให้มีควันเกิดขึ้น พร้อมให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับอำเภอด้านไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในการนี้นายอำเภอบางละมุง ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนขึ้นป้ายประชาสัมพันธ์ “ห้ามเผาโดยเด็ดขาด” บริเวณทางร่วมทางแยก แล้วใส่แคมเปญ เอากฎหมายมาบังคับว่าโทษมีอะไรบ้าง ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535
ในส่วนของจังหวัดชลบุรี พบว่า อำเภอบางละมุง อำเภอศรีราชา และอำเภอบ้านบึง ค่า PM 2.5 สูงที่สุด เพราะมีพื้นที่โซนเกษตรกรรมค่อนข้างเยอะ และก็มีการเผาทำลาย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน พื้นที่อำเภอบางละมุงมี “ป่าสงวนแห่งชาติป่าบางละมุง” ที่ถ่ายโอนอำนาจในการกำกับดูแลให้กับ อปท.เรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ในพื้นที่ของ ต.เขาไม้แก้ว 26,000 ไร่, พื้นที่ตำบลตะเคียนเตี้ย 11,000 ไร่, ตำบลโป่ง 7,400 ไร่, ตำบลห้วยใหญ่ 36,000 ไร่ ดังนั้นหากเกิดไฟป่า หรือเกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าสงวน ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้งบประมาณ ใช้ทรัพยากรบุคคล ทรัพยากรเครื่องจักร ในการที่จะลงไปแก้ไขและดับไฟได้
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ทุกพื้นที่จัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราสอดส่องดูแลจุดเสี่ยงที่อาจเกิดความร้อน จนทำให้เกิดการลุกไหม้ เช่น บ่อขยะ อาจจะเกิดจากความร้อนสะสมและเกิดลุกไหม้ขึ้นมา ดังนั้นควรเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ที่จะไปดับเพลิง ไม่ว่าจะเป็นรถดับเพลิงต้องเติมน้ำให้เต็มตลอดเวลา หากเกิดการลุกไหม้หรือเห็นควันไฟ ต้องดับไฟให้เร็วที่สุด คาดว่าในช่วงเดือน ก.พ. มี.ค. เม.ย. ไม่เกิน 90 วัน ค่าฝุ่น PM 2.5 ก็จะลดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายอำเภอบางละมุงกล่าวทิ้งท้ายว่าให้ทุกคปฏิบัติตามมาตรการลดฝุ่นละอองอย่างเคร่งครัด การเผาในพื้นที่เอกชน การเผาในพื้นที่สาธารณะ การเผาในพื้นที่ข้างทางหรือถนน การเผาในพื้นที่ป่าไม้ และการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันฝุ่นละอองและควบคุมการระบายฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิดไม่ให้เกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินสองหมื่นห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการสาธารณสุข (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560