สธ.แจ้ง 31 ม.ค.68 ฝุ่น PM2.5 กลับมาสร้างผลกระทบ ขณะที่ช่วง 8 วันฝุ่นพุ่งสูง คนป่วยเข้ารับบริการคลินิกมลพิษออนไลน์เกือบ 3,000 ราย มากสุดแถบปริมณฑล - กทม.
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2568 ที่กระทรวงสาธารณสุข มีการแถลง สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ประจำวัน โดย นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ด้านการแก้ไข ปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า การคาดการณ์สถานการณ์ใน 7 วันข้างหน้ายังเป็นแบบเดิม คือ วันที่ 31 ม.ค.2568 เริ่มมีฝุ่นมากขึ้น ลมมีอิทธิพลลดลง ฝุ่นกลับมามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นระยะประมาณ 5 วันก่อนลดระดับลงอีกครั้งช่วงวันที่ 5-6 ก.พ.2568
แนวทางการดูแลสุขภาพประชาชนให้ดูตามระดับความเข้มข้นของฝุ่น สีแด งไม่มีการออกกำลังกายกลางแจ้งทำได้ แต่ 31 จังหวัดสีส้มประชาชนทั่วไปขอให้ลดระยะเวลาอยู่ข้างนอกหรือออกกำลังกาย สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นทุกครั้งเมื่ออยู่กลางแจ้ง เลือกหน้ากากให้เหมาะสม ส่วนกลุ่มเสี่ยงพยายามจำกัดระยะเวลาอยู่ข้างนอก ถ้าเป็นไปได้ให้อยู่ภายในห้องปลอดฝุ่น ลดกิจกรรมก่อฝุ่นในบ้าน ผ่านตรุษจีนมาแล้วก็ขอให้ลดการจุดธูป เผากระดาษเงิน กระดาษทอง มีอาการใดๆ ทั้งทางเดินหายใจ ผิวหนัง ฯลฯ สามารถปรึกษาแพทย์รับบริการของสาธารณสุขได้
พญ.เปี่ยมลาภ แสงสายัณห์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ หัวหน้ากลุ่มงานอายุรศาสตร์ปอด สถาบันโรคทรวงอก กล่าวถึงผลกระทบต่อปอดจากฝุ่น PM2.5 ว่า PM 2.5 จะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของหลอดลม และเนื้อปอด ร่างกายจะมีการซ่อมแซมอาจเกิดโรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง หรือเกิดการสร้างเนื้อเยื่อพังผืดขึ้นมา หรือไปกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ เกิดการปรับตัวของเซลล์เราทำให้เกิดโรคมะเร็งได้
อาการที่เกิดจาก PM2.5 ได้แก่ ไอจาม มีน้ำมูกเพิ่มขึ้น หรือทำให้โรคพื้นฐาน เช่น โรคถุงลมโป่งพอง หรือโรคหอบหืดกำเริบขึ้นได้ จากเดิมที่ไออยู่แล้วก็ไอมากขึ้น เสลดเปลี่ยนสี เป็นต้น
จากโมเดลของการคำนวณจากงานวิจัยโดยตั้งต้นในพื้นที่มี PM2.5 สูงมากเกิน 100 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป ระยะเวลาได้รับค่อนข้างยาวเกินครึ่งวันขึ้นไป เคยสูงถึง 600-700 มคก./ลบ.ม.ในบางเมือง จะพบข้อมูลว่า การรับ PM 2.5 มีการเพิ่มทุก 10 มคก./ลบ.ม. ทำให้สมรรถภาพปอดลดลง การเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น 0.38% ต่อการเจ็บป่วย หรือมีโอกาสเสียชีวิตของโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น 8% ผู้ป่วยโรคปอดเพิ่ม 6% และโรคหัวใจเพิ่มขึ้น 4%
จากการคำนวณโมเดลพบว่า เมื่อระดับ PM2.5 ได้รับเกิน 20 มคก./ลบ.ม. มีโอกาสเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เป็น 2 เท่า แต่เป็นโมเดลที่บอกไม่ได้ว่าได้รับระยะเวลานานแค่ไหน หรือระยะเวลารับต่อวันเป็นอย่างไร รับมากี่ปี เพราะเป็นโมเดลเชิงสถิติ เช่นเดียวกันก็พบว่าทำให้สมรรถภาพปอดลดลง การกำเริบในหอบหืดเพิ่มขึ้น เมื่อได้รับฝุ่นเพิ่มมากขึ้น
ข้อมูลสถาบันโรคทรวงอก ที่เก็บในช่วงที่มี PM2.5 มากกว่า 25 มคก./ลบ.ม. ในคลินิกของคนไข้โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคหืดที่มีปัญหาทางเดินหายใจอยู่แล้ว โดยมีอายุ 45 ปีขึ้นไป 80% อายุ 60 ปีขึ้นไป พบว่า 1 ใน 5 มีอาการกำเริบขึ้นจากเดิม ตั้งแต่น้อยคือ ไอเพิ่มขึ้น ระคายเคืองตา คัดจมูกแน่นหน้าอก ไปจนถึงหายใจไม่สะดวก ต้องไปพ่นยาฉีดยา
“อันตรายของ PM2.5 ไม่ได้เกิดเฉพาะวันที่เป็นปัญหาหรือรับ PM2.5 จะมีการกระตุ้นการอักเสบ อาการจึงอาจเกิดหลังจากรับการกระตุ้นไปแล้วถึง 7 วัน เช่น รับวันนี้ อีก 3-5 วันค่อยมีอาการก็ได้ เป็นต้น ต้องเน้นย้ำประชาชนว่า เมื่อรับแล้วอาการไม่ได้เกินวันนี้ แต่เกิดหลังจากนี้ 2-3 วันได้”พญ.เปี่ยมลาภกล่าว
แนวทางป้องกันโดยเฉพาะกลุ่มคนไข้โรคปอด เราคดที่ 25 มคก./ลบ.ม. เมื่อเกินนี้ขึ้นไปให้ลดกิจกรรม และเลี่ยงการออกนอกบ้านจะดีที่สุด ร่วมกับการสวมแมสก์ ซึ่ง N95 ดีที่สุด แต่บางครั้งไม่สามารถเข้าถึงได้ การใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ใส่ 2 ชั้นประกบ ก็สามารถช่วยกรองได้มากขึ้น เหมือนมีตะแกรงสองชั้นช่วยกรอง การปลูกต้นไม้ การลดมลพิษก็เป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติ
ด้าน นพ.ศุภกร ตุลย์ไตรรัตน์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ รพ.นพรัตนราชธานี กล่าวว่า ช่วงที่ค่าฝุ่นสูงประมาณวันที่ 20 ม.ค. 2568 เป็นต้นมา จำนวนคนไข้ที่มาใช้บริการคลินิกมลพิษออนไลน์ก็สูงขึ้นเช่นกัน โดยวันที่ 20-28 ม.ค.68 มีประมาณ 2,500 ราย
กลุ่มที่มีอาการกำเริบจะเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น ภูมิแพ้ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด เมื่อสัมผัสฝุ่นอาการกำเริบได้ เช่น หอบเหนื่อย ต้องพ่นยา เสมหะเปลี่ยนสี ช่วงฝุ่นสูงอย่าง 24 ม.ค.68 กลุ่มทางเดินหายใจมีโรคประจำตัว และกำเริบก็จะเป็นกลุ่มนี้มากสุด ส่วนคนไม่มีโรคประจำตัวก็รับผลกระทบเช่นกัน แต่จำนวนความรุนแรงไม่ได้เท่ากับกลุ่มมีโรคประจำตัว
จากข้อมูลพบว่า เขตสุขภาพที่ 4 หรือปริมณฑล และเขตสุขภาพที่ 13 กทม. มีผู้มาใช้บริการสูง โดยสูงสุดอยู่ที่ กทม. ตามด้วยปทุมธานี และอุดรธานี ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มาด้วยอาการรุนแรงอยู่ที่ 31.2% เช่น แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หายใจมีเสียงวีด เหนื่อยง่าย หลักๆ เป็นกลุ่มทางเดินหายใจมีอาการมากที่สุด ระดับปานกลาง 43.8% และเล็กน้อย 14.6%
ผู้ที่ต้องการเข้าถึงคลินิกมลพิษออนไลน์สามารถแอดไลน์ไอดี @PM2.5 จะมีเมนูให้เลือกได้ เช่น การตรวจสอบค่าฝุ่น , การประเมินอาการ และให้คำแนะนำเบื้องต้น , การพบแพทย์ผ่านคลินิกมลพิษออนไลน์ ,ติดตามข้อมูลข่าวสารจะมีข้อมูลความรู้ฝุ่น PM2.5 และแบบสำรวจความรอบรู้ว่าเรามีความรอบรู้ PM2.5