ดร.ชูพงศ์ คำจวง ผู้สมัคร นายก อบจ.สกลนคร เบอร์ 2 นำพลพรรคกลุ่มพลังไทสกลนคร ปราศรัยเวทีสุดท้าย 100 %คน
ทิ้งทวนมนเขตเทศบาลนครสกลนคร กระแสเลือกนาย อบจ.คนเก่านำโด่ง ทิ้งห่าง 2 คู่แข่งบ้านใหญ่ที่ลงตัดคะแนนกันเองแบบตาอยู่คว้าพุงปลามันไปกิน
เย็นวันที่ 30 มกราคม 2568 ที่ลานชมดาว หลังวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เขตเทศบาลนครสกลนคร ดร.ชูพงศ์ คำจวง ผู้สมัคร นายก อบจ.สกลนคร หัวหน้าทีมกลุ่มพลังสกลนคร นำทีมผู้บริหาร และ ส.อบจ.ทั้ง 36 เขต 18 อำเภอ ออกปราศรัยทิ้งทวนเป็นวันสุดท้าย ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธุ์ 2568 มีชาวบ้านมาฟังการปราศรัยจำนวนมาก ซึ่งผู้ที่ร่วมปราศรัยประกอบด้วย นางกัญญาัค ศิลปะรายะ อดีตที่ปรึกษา รมช.มหาดไทย ซึ่งเคยลงสมัคร นายก อบจ.ด้วยคะแนนเสียง 107,028 คะแนน แพ้ให้กับ ดร.ขูพงศ์ ที่ได้คะแนน กว่า 136,000 คะแนน และ
มี นางอำนวย ยุทธคราม ประธานสภาสตรี จ.สกลนคร นายประหยัด ธานะราช ประ
ธานสภาวัฒนธรรม จ.สกลนคร นายคำพันธุ์ ชาพา ประธาน อสม.จ.สกลนคร นอกจากนี้ยังมีอดีตคนพรรคสีส้ม เช่น นายภิญโญ ขันติยู นายเลิศอุดม นาโคตรคำ และนายชยกฤต เดชทองทิพย์ ตบเท้าเข้าร่วม นอกจากนี้ยังมีนายสายัณห์ ธนเกียรติไพศาล แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวปราศรัยถึงผลงานที่ทำมา ทำอยู่แล้วและจะทำต่อไปเข่นเป็นนายก อบจ.4 ปี จัดสรรงบลงกว่า 1 พันโครงการ ใน 18 อำเภอ ออกงานทุกวันทั้งก่อนและหลัง ที่สำคัญอนุมัติงบซื้อเครื่องจักรเพื่อทำถนนลาดยางเพื่อประหยัดงบจัดศื้อจัดจ้าง ซื้อรถแบคโฮ 8 คัน เพื่อขุดสระให้ชาวบ้าน แก้ปัญหาขยะโดยการผลักดันให้เอกชนมาสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะไม่มีมลพิษ ซึ่งโดนใจเรียกเสียงปรบมือสนับสนุนดังสนั่น ทำให้กระแสพลิกขึ้นมาเป็นต่อทันที
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการติดตามพบว่าการแข่งขันมีคู่ชิง 3
เบอร์ คือ ดร.ชูพงศ์ คำจวง เบอร์ 2 อดีตนายก อบจ.สกลนคร นางอนุรักษ์ บุญศล เบอร์ 3 อดีต ส.ส 4 สมัย สมาชิกพรรคเพื่อ
ไทย ซึ่งมีนายพงษ์ศัดิ์ บุญศล อดีค ส.ส.พรรคเพื่อไทยเป็นกองหนุน และ นางนฤมล สัพโส เบอร์ 5 ซึ่งพรรคเพื่อไทยส่งลงสมัคร โดยมีนายพัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร เขต 4 พร้อมด้วย น.ส.จิรัชยา สัพโส ส.ส.สกลนคร เขต 3 พรรคเพื่อไทย สามีและลูกสาวช่วยหาเสียง จากการวิเคราะห์พบว่าคะแนนขอคนเสื้อแดงยังอยู่เท่าเดิมแต่มีผู้สมัคร 2 คน คะแนนจึงแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในขณะที่ ดร.ชูพงศ์ มีฐานคะแนนเดิม 136,000 คะแนน บวกกับคะแนนของนางกัญญาภัค อดีตคู่แข่งแต่ครั้งนี้จับมือกัน ที่มี 107,028 คะแนน เมื่อเอามารวมกันบวกลบแล้ว หาก ดร.ชูพงศ์ได้คะแนน 160,000 คะแนน เท่ากับว่าจะเป็นดังสุภาษิตตาอินกับตานา ดร.ชูพงศ์ จะเป็นตาอยู่หยิบชิ้นปลามันไปครองแทน เพราะตาอินกับตานาไม่ลงรอยกัน แต่ทั้งนี้ต้องดู เบอร์ 1 นายขจรศักดิ์ เบ็ญขัย อดีต ส.อบจ.ที่อดีตเคยสังกัดพรรคสีส้มจะมีคะแนนเท่าใดด้วย และจะสามารถทำให้คะแนนเปลี่ยนได้หรือไม่
/////////////////////วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร 0819541528