วันนี้ 2 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ และนายจตุพร อิ่มจิตร เกษตรอำเภอทองผาภูมิ ได้รณรงค์ขอความร่วมมือจากประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ ให้งดการเผาในทุกกรณี เพื่อป้องกันค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง
เพราะสาเหตุหลักของค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 นั้นมาจากการเผาเศษวัสดุทางการเกษตรและการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกในช่วงฤดูแล้ง การเผาป่าเพื่อหาของป่า โดยเฉพาะในพื้นที่สูงและพื้นที่การเกษตรรอบอำเภอทองผาภูมิ ประกอบกับสภาพอากาศที่นิ่ง ทำให้ควันและฝุ่นละอองสะสมในพื้นที่เป็นวงกว้าง
โดยนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ และนายจตุพร อิ่มจิตร เกษตรอำเภอทองผาภูมิ ได้รณรงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ ดังนี้ 1.ตั้งแต่วันนี้ 2 ก.พ.ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.68 ห้ามเกิดเหตุการณ์เผาในพื้นที่การเกษตรโดยเด็ดขาด หากใครพบเห็นผู้กระกระทำความผิดผิดขอให้โทรแจ้งได้ที่สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง หากผู้แจ้งเบาะแสแล้วนำไปสู่การจับกุมตัวผู้กระทำผิดดำเนินคดี ท่านก็จะได้รับเงินรางวัลนำจับตามความเหมาะสม ซึ่งขณะนี้ภาคเอกชนได้สนับสนุนเงินกองทุนให้กับทางจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว จำนวน 5 หมื่นบาท
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา การเผาในพื้นที่เกษตรกรรมปี 2567/68 โดยมีเป้าหมาย ควบคุมพื้นที่เผาไหม้จากการเผาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยโรงงานดลองจากปี 67 ภาคตะวันตกลดลงร้อยละ 15 กลุ่ม พืชเป้าหมาย เช่นนาข้าว ลดลงร้อยละ 30 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลดลงร้อยละ 10 อ้อยโรงงานลดลงร้อยละ 15
ที่สำคัญยังมีมาตรการดำเนินงาน การตัดสิทธิ์การได้รับความช่วยเหลือชดเชยต่างๆจากภาครัฐ หากตรวจพบว่ามีการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม เกษตรกรในพื้นที่การเกษตรทั่วไป ให้หน่วยงานกำหนดคุณสมบัติหรือเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการต่างๆของรัฐ ต้องเป็นเกษตรกรที่พื้นที่แปลงเกษตรไม่มีการเผาในฤดูกาลผลิตปี 2568 เช่นโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท การอนุมัติสินเชื่อให้แก่เกษตรกร ผ่านกองทุนที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับ เป็นต้น
ในกรณี เกษตรกรรายใดมีประวัติการเผาในพื้นที่การเกษตร เกษตรกรรายนั้นจะไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ทุกโครงการ โดยเป็นการขาดคุณสมบัติในการเข้าร่วมโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรนับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2570 รวม 2 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านนายวีระศักดิ์ สุขทอง เกษตรจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนายชยุติ โสไกร หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต พร้อมเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอพนมทวน และทีมงาน ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนพบปะพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยและเกษตรกรชาวนาในพื้นที่ อ.พนมทวน เพื่อรณรงค์ในหัวข้อ “หยุดเผาเราต้องช่วยกัน”
โดยพบว่าเกษตรได้ทำการไถกลบตอซังข้าวแล้วหันมาปลูกถั่วลิสงที่เป็นพืชเกษตรที่ใช้น้ำน้อย สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรมากถึงไร่ละ 2 หมื่นบาท ส่วนเกษตรการที่ตัดอ้อยเข้าโรงงานแล้ว ได้ทำการม้วนใบอ้อยเพื่อนำไปขายให้กับบริษัทฯ เพื่อทำเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล โดยไม่มีการเผา นอกจากใบอ้อยจะสร้างรายได้ให้กับเจ้าของไร่อ้อยแล้ว ยังส่งผลดีต่อสภาพอาศเนื่องจากไม่มีการเผาเกิดขึ้น
///////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์