ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
กรมประมงปล่อยพ่อพันธุ์ ‘หมอคางดำ4n’ นำร่องแก้ระบาดที่เพชรบุรี
05 ก.พ. 2568

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ลงพื้นที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังรายงานความก้าวหน้าโครงการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำ โดยมีนายอาคม ชุ่มธิ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ นายคงภพ อำพลศักดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมสัตว์น้ำและประธานคณะทำงานโครงการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ให้การต้อนรับพร้อมรายงานความก้าวหน้าโครงการฯ

นายบัญชา กล่าวว่า จากนโยบายของนายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่กำกับดูแลกรมประมงและประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ กรมประมงจึงได้ดำเนินโครงการวิจัยการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำ เป็นไปตามมาตรการที่ 6 จากทั้งหมด 7 มาตรการในการควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำ โดยการนำหลักพันธุศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อการควบคุมการแพร่ขยายพันธุ์ของปลาหมอคางดำ โดยใช้เทคนิคการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม จากเดิมที่มีจำนวนชุดโครโมโซมตามธรรมชาติ 2 ชุด หรือ 2n ให้เป็นปลาหมอคางดำที่มีชุดโครโมโซม 4 ชุด หรือ 4n โดยจะนำปลาหมอคางดำ 4n เพศผู้ ปล่อยลงสู่แหล่งน้ำเพื่อให้ไปผสมพันธุ์กับปลาหมอคางดำซึ่งมีชุดโครโมโซม 2n ในธรรมชาติ โดยลูกปลาหมอคางดำที่ได้จากการผสมในลักษณะนี้จะได้ลูกปลาที่มีชุดโครโมโซม 3 ชุด หรือ 3n มีลักษณะที่เป็นหมันไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อไปได้

สำหรับการดำเนินการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซมปลาหมอคางดำในครั้งนี้ ดำเนินการเหนี่ยวนำด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 40 °C เป็นระยะเวลา 5 นาที ณ เวลา 80 นาทีหลังผสม ได้ปลาหมอคางดำที่สามารถเจริญเติบโตจนมีอายุ 3 เดือนจำนวน 1,112 ตัว และมีจำนวนปลาหมอคางดำที่มีขนาดที่เหมาะสมสำหรับติดเครื่องหมาย PIT tag ได้ 703 ตัว และสามารถเจาะเลือดเพื่อตรวจสกรีนจำนวนชุดตรวจโครโมโซมแบบ (pool sample) จำนวน 551 ตัว (135 pools) ด้วยเครื่อง flow cytometer พบรูปแบบการแสดงผลเป็นโครโมโซม 4n จำนวน 20 pools และดำเนินการตรวจยืนยันจำนวนโครโมโซมรายตัวแล้วจำนวน 1 pool พบปลาหมอคางดำที่มีโครโมโซม 4n และขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบยืนยันผลรายตัวจนครบ 20 pools ภายในเดือนมีนาคม 2568

ขณะเดียวกันคณะทำงานได้ดำเนินการปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการเหนี่ยวนำโครโมโซม เพิ่มเติมจำนวน 9 รูปแบบ โดยมีการตรวจสอบจำนวนชุดโครโมโซมเป็นระยะๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มจำนวนปลาหมอคางดำที่มีชุดโครโมโซมให้เหมาะสมและเพียงพอเพื่อขยายปล่อยลงแหล่งน้ำ ควบคุมจำนวนปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป ที่สำคัญในวันนี้กรมประมงได้ดำเนินการปล่อยปลาหมอคางดำเพศผู้ ที่มีโครโมโซม 4n เข้าผสมกับปลาหมอคางดำเพศเมีย ที่มีโครโมโซม 2n ในหน่วยทดลองเพื่อศึกษาการเข้าคู่ผสมพันธุ์ และความสามารถในการแข่งขันการเข้าคู่ผสมพันธุ์โดยวิธีธรรมชาติ เพื่อให้ได้ลูกปลาที่มีชุดโครโมโซม 3n ซึ่งมีลักษะเป็นหมันต่อไป

นอกจากนี้ การลงเพื่อติดตามโครงการในวันนี้ อธิบดีกรมประมงและคณะได้เข้าเยี่ยมชมหน่วยปรับปรุงพันธุ์กุ้งขาวสายพันธุ์เพชรดา 1 ที่กรมประมงได้ดำเนินการปรับปรุงพันธุ์และดำรงรักษาสายพันธุ์ไว้ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำเพชรบุรี มีการเลี้ยงทดสอบการเจริญเติบโตเพื่อให้เป็นพ่อแม่พันธุ์ในบ่อผ้าใบนอกอาคารไม่ควบคุมอุณหภูมิ และการเลี้ยงในอาคารที่สามารถคุมอุณหภูมิได้ พบว่าการเลี้ยงกุ้งขาวสายพันธุ์เพชรดาทั้งสองรูปแบบปัจจุบันมีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น ตั้งแต่รุ่น Po ถึงรุ่น P6 และจากการศึกษาผลการเจริญเติบโตของกุ้งขาวสายพันธุ์ "เพชรดา 1" ในฟาร์มเกษตรกรและในศูนย์ฯ พบว่า “เพชรดา 1” มีค่าเฉลี่ยการเจริญเติบโตสูงกว่าพันธุ์กุ้งแหล่งอื่นที่นำมาเปรียบเทียบ จากนั้นอธิบดีกรมประมงได้มอบพันธุ์ปลากะพงขาวที่เป็นปลาผู้ล่าในธรรมชาติ ตามมาตรการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ มาตรการที่ 1 ให้เกษตรกรในพื่นที่จังหวัดเพชรบุรี ไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อที่ถูกบุกรุกเพื่อกำจัดและควบคุมปริมาณปลาหมอคางดำ

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 มีนาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
13 ม.ค. 2568
ตามรายงานของศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสิงคโปร์ (thaibizsingapore.com) ระบุว่า สิงคโปร์เป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 8 ของไทย และไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 10 ของสิงคโปร์ จากสถิติของกระทรวงพาณิชย์และกรมศุลกากร ปริมาณการค้าไทย-สิงคโปร์ ปี 2565 มีมูลค่ารวม 644,383 ...