นายวิสัย เขตสกุล  เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า โลกยุคAIต้องปฏิรูปการศึกษา5 เรื่อง สำคัญอันเป็นหัวใจ5ห้องหรือเบ็ญจทำ ดังนี้ 1.ต้องเร่งพัฒนาความถนัดของเด็กแต่ละคนตั้งแต่แรกเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับ  2.ต้องให้ครูเป็นวิชาชีพชั้นสูงจริงๆ ครูไม่ต้องไปทำอาชีพเสริมอีก 3.ต้องให้โรงเรียนเป็นนิติบุคคลเพื่อครูได้สอนเต็มที่เต็มเวลาเต็มหลักสูตรจนเต็มความสามารถ 4.การผลิตครูต้องเป็นระบบปิด สถาบันผลิตครูต้องเป็นมืออาชีพด้านการบริหาร การจัดการศึกษาและการจัดการเรียนรู้เป็นพิเศษโดยยึดมั่นในหลักการครู คือวิชาชีพควบคุม ครูของครูต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ  และ.รัฐมีหน้าที่กำหนดนโยบาย สนับสนุน ส่งเสริมและอำนวยการให้เด็ก ครู โรงเรียนและสถาบันผลิตครูทำหน้าที่ของตนให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด น่าจะครอบคลุมแล้ว  เรื่องอื่นๆเป็นการะหน้าที่สำคัญที่หัวใจทั้ง 5 ห้อง จะต้องรับผิดชอบต่อไป แก่นความคิดร่าง พ.ร.บ.กศ.หลายฉบับที่ใต้เห็นขณะนี้ดูมีข้ออ่อนต้อยตรงกับเปิดโอกาสให้มีการเซาะกร่อนบ่อนทำลายชาติศาสน์กษัตริย์อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น โดยรัฐจะให้ภาคประชาชนกับภาคเอกชนเข้ามาจัดการศึกษาชาติแทนให้มากที่สุดและเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาภาคบังคับ ถึงกับบัญญัติเชิงบังคับรัฐบาลว่าต้องหาคนมาจัดแทนให้เด็กทุกคนได้รับอย่างทั่วถึง ยิ่งเป็นบิดา มารดาหรือผู้ปกครองถ้าจะจัดให้บุตร หลาน เด็กๆในปกครอง  ก็ให้จัดได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาตใครทั้งนั้น  มันก็เข้าทางพวกจะล้มชาติศาสน์กษัตริย์ทั้งไทยและเทศทันทีเลย และการศึกษาในระบบทุกระดับยังบังคับให้เด็กทุกคนต้องเรียนเหมือนกันและเรียนเท่ากัน ดังแต่โบราณกาลมา 

ทั้งๆที่เราเข้าสู่โลกปัญญาประดิษฐ์แล้ว เด็กๆเปรียบเสมือนไม้ใหญ่นานาพันธุ์ในป่าใหญ่  ล้วนมีคุณค่าเอนกอนันต์นัก ถูกบอนไซด์เอามาปลูกไว้ในกระถาง ถึงจะทุ่มเททุ่มทนดูแลเอาใจใส่มากมายใหญ่หลวงแค่ไหน  ไม้ใหญ่ก็เป็นได้แค่ไม่ประดับเท่านั้นเอง จะเอาไปปลูกบ้านสร้างเมืองไม่ได้โดยเฉพาะร่างหลักๆของพรรคใหญ่ๆต่างรวบอำนาจไปไว้ที่จอมแหหรือยอดปิรามิด โดยให้มีคณะกรรมการ(ที่ดูเป็นภาพรวมของผู้ทรงคุณวุฒิที่น่าเคารพศรัทธาเลื่อมใสและเชื่อมั่นได้)เป็นเสื้อสูทราคาแพงจากเมืองนอกมาคลุมไว้และใช้กลยุทธนี่อำพรางรวบอำนาจใว้ตามข้อต่อทุกช่วงของโครงสร้างในการบัญชาการอย่างแน่นปึ๊ก  จากอดีตตั้งแต่ปี2523เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ สอนให้เรารู้ว่าแท้จริงแล้ว "คณะกรรมการ" ก็คือเผด็จการซ่อนรูปดีดีนี่เอง  คือเผด็จการรวบอำนาจที่เบ็ดเสร็จสมบูรณ์แบบ  คือเครื่องมือในการทุจริตที่มีพลังและชอบธรรมของอำนาจเผด็จการแต่ละช่วง  คณะกรรมการนับเป็นมหาภัยต่อการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน วิชาชีพครูและการศึกษาชาติเสมอมา การศึกษาจึงต้องพบกับสารพัดปัญหาจนหาทางออกไม่ได้ในปัจจุบัน
    
**********

ข่าว/ภาพ  บุญทัน  ธุศรีวรรณ  ศรีสะเกษ