อำเภอศรีสวัสดิ์ ขานรับนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเปลือกและซังข้าวโพดทดแทนการเผา ส่วนฝุ่น PM2.5 มีค่า 55.8 มคก./ลบ.ม.
วันนี้ 17 ก.พ.68 ผู้สื่อข่ารายงาน่า นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผ่าราชการจังหัดกาญจนบุรี ได้วิทยุด่วนไปกำชับถึงนายอำเภอเภอทั้ง 13 อำเภอ หากพบว่าพื้นที่ใดมีจุดความร้อนสูงขอให้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เร่งเข้าไปดำเนินการดับไฟในทันที หากพบมีการเผาให้ดำเนินคดีทันที หรือหากไม่พบผู้กระทำผิดให้ไปลงบันทึกประจำวันยังสถานีตำรวจในพื้นที่ ไว้เป็นหลักฐาน ขอให้นายอำเภอทุกอำเภอบังคับใช้กฎหมายอย่างเข็มงวด สุดท้ายขอให้นายอำเภอกำชับหน่วยงานในพื้นที่จัดชุดลาดตระเวนติดการเผาอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ส่วนคุณภาพอากาศ จังหวัดกาญจน์ วันนี้เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่อธิบดีกรมอุทยานฯประกาศพื้นที่ใดที่เกิดไฟไหม้ป่ามากให้ออกประกาศห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปเก็บหาของป่าในพื้นที่ป่าโดยเด็ดขาดตลอดทั้งปี หากผู้ใดฝ่าฝืนเข้าไปเก็บหาของป่าในพื้นที่อนุรักษ์โดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ยกเว้นเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเป็นรายกรณีเท่านั้น และสถานการณ์คุณภาพอากาศของจังหวัดกาญจนบุรี พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่า 67.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนแนะนำ เด็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ และอ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์ ส่วนประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีความจำเป็นเช่น หน้ากากอนามัย เป็นต้น
ขณะที่ดาวเทียม ซูโอมิเอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบ วีอาร์เอส (VIIRS) ตรวจจุดความร้อน ((Hotspot)ย้อนหลังกลับไป 24 ชั่วโมง พบจำนวน 247 จุด พื้นที่รับผิดชอบ ป่าอนุรักษ์ 128 จุด ป่าสงวน 48 จุด เขต สปก.5 จุด พื้นที่เกษตร 10 จุด ริมทางหลวง 0 จุด และอื่นๆ 56 จุด
นายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรีกล่าวว่า ตามที่อำเภอศรีสวัสดิ์ กำหนดยุทธการ “ 90 วัน คนดีไม่เผา คนเผาโดนจับ ” เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของนายอธิสรรค์ อินทร์ตราผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่ออกประกาศห้ามเผาทุกพื้นที่ในจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงการส่งเสริมพี่น้องเกษตรกรใช้ทางเลือกอื่นทดแทนการเผาเศษวัสดุจากการทำเกษตร เพื่อแก้ไขและป้องกัน ปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนชาวกาญจนบุรี นั้น
ซึ่งปัจจุบันพี่น้องชาวเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ ได้ร่วมมือดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวข้างต้นเป็นอย่างดี โดยไม่มีการเผาเศษวัสดุจากการทำไร่ข้าวโพดที่เหลือ คือเปลือกและซังข้าวโพดเลย ทำให้สถิติการเผาในแปลงเกษตร ตั้งแต่ออกยุทธการมาจุดความร้อน(Hotspot) ยังเป็นศูนย์
ดังนั้น จึงจำเป็น ต้องหาวิธีการกำจัดเปลือกและซังข้าวโพดเหล่านี้ ซึ่งจากการลงพื้นที่และพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านหลายพื้นที่ เช่นพื้นที่ตำบลนาสวน ตำบลเกาะบุก ก็พบว่า ปัจจุบันเกษตรกรบางกลุ่มมีวิธีกำจัดโดยไม่เผา ด้วยการนำโค-กระบือ มากินเปลือกและซังข้าวโพดในไร่ เกษตรกรบางรายมีการนำเครื่องจักรมาใช้ในการอัดเปลือกและซังข้าวโพดให้เป็นก้อนฟาง เพื่อใช้ในการเลี้ยงวัวและควาย หรือนำไปขายสามารถสร้างรายได้เสริมเป็นอย่างดี ซึ่งตนคงจะได้นำไปเผยแพร่ พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อแจ้งลูกบ้านนำไปปรับใช้ หรืออาจมีวิธีการอื่นๆอีก
//////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์