ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
รู้ลึก รู้จริงโอกาสทางการค้าในแดนภารตะกับงานสัมมนา “India: Your Destiny, Your New Destination”
18 เม.ย. 2561

พาณิชย์เดินหน้านโยบายหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและอินเดีย ผ่านงานสัมมนาใหญ่ “India: Your Destiny, Your New Destination” จับมือสถานทูตอินเดียและรัฐอุตตรขัณฑ์ เปิดมุมมอง และเจาะลึกโอกาสทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว พร้อมย้ำผู้ประกอบการไทยต้องไม่พลาดการเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจอินเดีย  

          นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2561 กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยและรัฐอุตตรขัณฑ์ จัดงานสัมมนา “India: Your Destiny, Your New Destination” ณ ห้องแกรนด์ บอลลูม โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ตามนโยบายหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและอินเดียและสานต่อภารกิจจากการนำคณะภาคเอกชนเดินทางไปสำรวจตลาดและสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจในหลายรัฐของอินเดีย เช่น รัฐคุชราต รัฐอุตตรประเทศ รัฐเตลังกาน่า รัฐอานธรประเทศ และรัฐทมิฬนาฑู เมื่อเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2561 โดยการสัมมนาในครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย มุขมนตรีและผู้บริหารระดับสูงของรัฐอุตตรขัณฑ์ ร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโอกาสทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ของรัฐอุตตรขัณฑ์และประเทศอินเดีย รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของไทย เช่น บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) บจก. แอ็ลไลด์ เม็ททัลส์ (ไทยแลนด์) บจก. SCG Trading และ บมจ. สหมิตร ถังแก๊ส ได้ร่วมเปิดมุมมองและแบ่งปันประสบการณ์การทำธุรกิจในอินเดีย โดยเฉพาะโอกาสและอุปสรรคของนักลงทุนไทย วัฒนธรรมทางธุรกิจ และช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคชาวอินเดีย

          นางสาวชุติมา กล่าวเพิ่มเติมว่า  จากการสัมมนาดังกล่าว ผู้ประกอบการไทยได้รับความรู้และมุมมองใหม่ จากการดำเนินนโยบายส่งเสริมการลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจของอินเดียทั้งในระดับประเทศและระดับรัฐอย่างรัฐอุตตรขัณฑ์ ซึ่งได้เปิดรับการลงทุนและอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจของนักลงทุนต่างชาติอย่างเต็มที่ รวมทั้งได้รับทราบถึงแนวคิด “New India” ที่ผลิกโฉมอินเดียสู่การเป็นประเทศแห่งโอกาสทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ตลอดจนเข้าใจการดำเนินนโยบายปฏิบัติการตะวันออก (Act East Policy) ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาบุคลากร และการพัฒนาความเชื่อมโยงและโลจิสติกส์ระหว่างอินเดียกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          นอกจากนี้ ภายในงาน ยังได้จัดแสดงศักยภาพด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของรัฐอุตตรขัณฑ์ โดยมุขมนตรีรัฐอุตรขันธ์ได้แนะนำรัฐและนโยบายด้านการค้าการลงทุนของรัฐ รวมทั้งโอกาสและสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนจากผู้แทนของรัฐอุตตรขัณฑ์ ซึ่งผู้ประกอบการไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นรัฐที่มีศักยภาพสูงด้านอุตสาหกรรมเกษตรและการแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมยาและการดูแลสุขภาพ รวมทั้งเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญของสินค้าเกษตรจำพวกผลไม้และผักเมืองหนาว เช่น แพร์ พีช พลัม มะเขือเทศ และมันฝรั่ง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการด้านธุรกิจบริการท่องเที่ยวไทยยังได้รับทราบถึงทำเลที่ตั้งของรัฐอุตตรขัณฑ์ซึ่งอยู่บนแถบเทือกเขาหิมาลัย มีภูมิประเทศสวยงามและมีภูมิอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี จึงเห็นช่องทางในการลงทุนดำเนินธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม สปา และร้านอาหาร

          ปัจจุบันอินเดียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย โดยร้อยละ 57 ของ GDP มาจากภาคบริการ ซึ่งขยายตัวเร็วและดึงดูดการลงทุนมากที่สุด เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ การเงินและการธนาคาร การวิจัยและพัฒนา โทรคมนาคม และการก่อสร้าง ในด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับอินเดีย อินเดียเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ มีมูลค่าการค้าระหว่างกันในปี 2560 กว่า 10,385.57 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเติบโตถึงร้อยละ 34 โดยแบ่งเป็นการส่งออกสินค้าของไทยไปอินเดียมูลค่า 6,486.55 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้าสินค้าของไทยจากอินเดียมูลค่า 3,899.02 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญจากไทยไปอินเดีย คือ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล สินค้านำเข้าสำคัญจากอินเดียมาไทย คือ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และเวชภัณฑ์

ด้านการลงทุนระหว่างไทยและอินเดีย ปัจจุบันมีมูลค่ารวมกว่า 13,010 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็น
การลงทุนของไทยในอินเดีย 8
,144 ล้านเหรียญสหรัฐ และการลงทุนของอินเดียไทยกว่า 4,865.27 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยนักลงทุนไทยได้เข้าไปลงทุนในหลากหลายสาขา เช่น สาขาอุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูป (บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด) สาขาอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เซรามิกส์ และโลหะขั้นพื้นฐาน (บริษัท เอสซีจี เทรดดิ้ง จำกัด (เครือซีเมนต์ไทยสาขาอุตสาหกรรมเบา เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ (บริษัท แพรนดา จำกัด (มหาชน) เมลามีน (บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)) รถจักรยาน (บริษัท แอลเอ ไบซิเคิ้ล (ประเทศไทย) จำกัด และสาขาอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องจักร (บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด และบริษัท อีสเทิร์น โพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ส่วนอินเดียมีการลงทุนในไทยที่สำคัญ Aditya Birla GP Polyplexและ Tata

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...