ไม่ได้มาเป็นศรัตรู หรือชวนทะเลาะ “ เสธ หิ ” ให้เวลา 30 วัน คนทำการเกษตร-ปลูกทุเรียน เกาะกลางอ่างเก็บน้ำคีรีธาร จ.จันทบุรี ออกจากพื้นที่ หากยังฝืนอยู่ถือว่ามีเจตนาบุกรุก !
การประชุม เพื่อแก้ปัญหาบุกรุกพื้นที่โครงการไฟฟ้าพลังน้ำคีรีธาร ภายในอ่างเก็บน้ำคีรีธาร ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี วันนี้(26/2/68) ที่ห้องประชุม ตากสิน ชั้น 4 ศาลากลาง จังหวัดจันทบุรี มี “เสธ หิ” ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ,พล.ต.ประพนธ์ กิติญาณทรัพย์ รอง ผอ.ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. ,พล.อ.ต.ชัยสม ร่มโพธิ์ทอง หัวหน้าสำนักงานที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่ เข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง พบว่า กระทรวงพลังงาน ขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ เพื่อดำเนินโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคีรีธาร รวม 2 ป่า คือ ป่าตกพรหม 5,794 ไร่ และป่าปัถวี 834 ไร่ ส่วนพื้นที่โดยรอบบางส่วนมีการจัดสรรเป็นที่ สปก. ให้ประชาชนทำกิน แต่พื้นที่บนเกาะในอ่างเก็บน้ำไม่ได้มีการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แต่อย่างใด
นายกรรชัย มีกระโดน ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า ขอความเห็นใจจากคณะกรรมการฯ ทุกภาคส่วน ทั้งพลังงาน ป่าไม้ และ สปก. เนื่องจากชาวบ้านไม่มีเจตนาบุกรุกพื้นที่เกาะกลางน้ำ โดยชาวบ้านที่เข้าไปสวนสวนเกษตร จะรื้อสิ่งปลูกสร้างที่ลงทุนออกก่อนจะถูกหน่วยงานเจ้าของพื้นที่รื้อถอน เพราะที่ที่ได้รับการจัดสรรให้บางครอบครัวทำสวนไม่พอเลี้ยงชีพ ประกอบกับครอบครัวขยายจึงต้องหาที่ดินทำกินเพิ่ม
ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า มาวันนี้ไม่ได้เป็นศรัตรู หรือมาทะเลาะกัน แต่มาเพื่อมาหาทางออก ขณะเดียวกันชาวบ้านต้องเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะมีหน้าที่ที่จะรักษาทรัพยากรธรรมชาติของส่วนรวม
สำหรับ 15 ราย ที่มีการแจ้งความดำเนนคดี ณ วันนี้ ถือว่าไม่มีเจตนาบุกรุกสามารถไปให้ปากคำกับกับพนักงานสอบสวนได้ และรีบไปนำสิ่งของที่มีการปลูกสร้างในเขตของกระทรวงพลังงานออกมาจากพื้นที่ โดยให้เวลา 30 วัน จะต้องรื้อถอนออกให้หมด หากครบกำหนดและเข้ามาตรวจสอบ ยังพบสิ่งปลูกสร้าง หรือไม่มีการรื้อสิ่งของออกจากพื้นที่ถือว่า เจตนาบุกรุก และต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
สำหรับพื้นที่ขอบอ่างซึ่งเป็นพื้นที่ทับซ้อนที่ยังไม่ได้มีการให้เข้าไปทำประโยชน์เป็นเพราะ ว่า หากวันใดฝนตกหนักและน้ำมาก อาจจะท่วมพื้นที่ที่มีการเข้าไปทำประโยชน์ได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้
สมนึก วิสุทธิ์ จันทบุรี 0913908888