สกพอ.จ่อเซ็นสัญญา UTA เริ่มก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภาในเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ จี้ "ไฮสปีด" เร่งเจรจาสัญญาใหม่ให้เสร็จภายในเม.ย. เช่นกัน ระบุอีอีซียังมีข้อได้เปรียบและแข่งขันได้ ดึงลงทุน FDI ปี 67 สูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า สกพอ. พร้อมหารือร่วมกับบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จํากัด (UTA) เอกชนผู้ร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ภายในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กว่า 6,500 ไร่ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรวมกว่า 2.9 แสนล้านบาท หลังจากบริษัทประกาศออกมาว่าจะไม่รอโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
“การดำเนินโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ และรถไฟความเร็วสูงฯ น่าจะเริ่มต้นได้ภายในครึ่งปี 2568 นี้ โดยในส่วนของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ คงไม่ได้แก้ไขสัญญาอะไร สามารถบริหารสัญญาได้ หากเอกชนจะปรับลดขนาดโครงการลงในระยะแรก”
นายจุฬา กล่าวว่า สกพอ.เห็นใจเอกชน เพราะยังไม่สามารถขับเคลื่อนโครงการได้อย่างเต็มที่ เพราะหากโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ ยังก่อสร้างไม่ได้ ปริมาณผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้ามาใช้สนามบินก็อาจยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ดังนั้นจึงต้องหาทางใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่ให้ดีที่สุด ซึ่งการปรับขนาดของอาคารผู้โดสารลงนั้น สามารถทำได้ แต่เมื่อจำนวนผู้โดยสารเข้ามาใช้ถึง 80% เอกชนก็ต้องขยายความสามารถในการรองรับเพิ่มขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ในกรณีการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงภายใต้อาคารผู้โดยสารของสนามบินอู่ตะเภานั้น ที่ผ่านมาภาคเอกชนขอให้รัฐตัดสินใจว่าจะเดินหน้ายังไงต่อหากโครงการรถไฟความเร็วสูงล่าช้า และไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาทางออก โดยอาจให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมพร้อมการลงทุนเรื่องของอุโมงค์
“ในตัวสนามบินอู่ตะเภาจะต้องมีสถานีรถไฟความเร็วสูงอยู่ หากกรณีของเอกชนยังไม่มา ทางการรถไฟฯ จะทำอุโมงค์รอไว้ให้ เพราะถ้าเกิดโครงการพัฒนาอู่ตะเภาฯ เริ่มไปแล้ว และมีการสร้างรันเวย์ที่สองและจะขุดอุโมงค์ใต้รันเวย์ไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดนั้นต้องมาหารือกันอีกครั้ง โดยหลัก ๆ แล้วก็ได้คุยกันในประเด็นนี้ไปแล้วทั้งรัฐ และรฟท.”
ขณะที่สิทธิประโยชน์ต่างๆ จะต้องปรับปรุงด้วยหรือไม่ เมื่อ UTA จะเร่งเดินหน้าโครงการต่อโดยไม่รอรถไฟความเร็วสูง ประเด็นนี้ นายจุฬา ยอมรับว่า กรณีนี้จะต้องเจรจากันอีกครั้ง หากเอกชนจะขอสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม แต่ในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภายังมีกิจการอื่น ๆ อีกหลายอย่าง หากมีเอกชนรายใดสนใจเข้ามาลงทุนก็สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ได้กับ EEC โดยตรง แม้ว่าตอนนี้สิทธิประโยชน์จะรอเสนอเข้าครม. แต่ก็สามารถเข้ามาเจรจาก่อนได้
ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงฯ ล่าสุด รฟท.กำลังหารือรายละเอียดของสัญญา และเตรียมเสนอเข้าไปยังคณะกรรมการการรถไฟฯ เพื่อเห็นชอบภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ก่อนจะส่งให้อัยการตรวจสอบสัญญา และเสนอให้ครม.เห้นชอบต่อไป โดยไทม์ไลน์ของโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนเม.ย. 2568