วันที่ 6 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น.นายจักรพงษ์ พันธุ์โชติ นายอำเภอขลุง พร้อมด้วยนายพีรพงศ์ มาลาวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายอำนวยความเป็นธรรม ร่วมกับเทศบาลตำบลบ่อเวฬุ กำนันตำบลบ่อเวฬุ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลบ่อเวฬุ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกรมป่าไม้และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการตรวจยึดพื้นที่ 919 ไร่ ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง พร้อมรวบรวมหลักฐานนำไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตกพรม นั้น

          จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวในอดีตเคยเป็นพื้นที่สัมปทานของบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นพื้นที่ไข่แดง บริเวณรอบนอกเป็นพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมทั้งสิ้น ซึ่งบริษัทได้หมดสัญญาเช่าสัมปทานจากกรมป่าไม้ ตั้งแต่ปี 2546 แต่ยังไม่ได้ดำเนินการคืนกรมป่าไม้ และได้ดำเนินการครอบครองเรื่อยมา โดยให้ราษฎรซึ่งอยู่ในพื้นที่ ดำเนินการครอบครองทำเกษตรกรรม (ปลูกทุเรียน) จนถึงปัจจุบันพบว่าผู้ครอบครอง เป็นบุคคลในพื้นที่ จำนวน 8 ราย ได้ดำเนินการทำทางรถวิ่งโดยมีการฉาบปูนเพื่อป้องกันการลื่นไถลของรถ เข้าไปในพื้นที่ที่ทำการปลูกทุเรียน ส่วนกรณีข้อสงสัยที่มีการติดตั้งไฟฟ้าบริเวณป่าสงวน จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ราษฎรบริเวณพื้นที่รอบนอกซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้ดำเนินการขออนุญาตกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาขลุง ซึ่งการไฟฟ้าภูมิภาค สาขาขลุง ได้ยืนยันว่ามีหลักฐานการขอใช้ไฟฟ้า และมีคุณสมบัติครบถ้วน เนื่องจากบริเวณพื้นที่รอบนอกเป็นพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ซึ่งได้ติดตั้งเสาไฟฟ้าบริเวณถนนเข้าพื้นที่ดังกล่าว ในส่วนของเทศบาลตำบลบ่อเวฬุได้มีข้อมูลหลักฐานการขอเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ก่อนได้รับอนุญาตตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 จึงสามารถทำเส้นทางหรือว่าถนนสาธารณะได้ 

        ทั้งนี้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกรมป่าไม้ ได้ปักป้ายตรวจยึดพื้นที่ และดำเนินการร้องทุกข์ต่อสถานีตำรวจภูธรตกพรมแล้วเพื่อดำเนินคดีต่อไป
สมนึก วิสุทธิ์ จันทบุรี 0913908888