กรมชลประทาน เดินหน้าการดำเนินงานภายใต้นโยบาย "RID UNITED" เพื่อพัฒนากำลังคน ส่งเสริมองค์ความรู้ และนวัตกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน และมุ่งหวังที่จะสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน
นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมชลประทาน เผยถึงแนวทางการบริหารงานภายใต้นโยบาย “RID UNITED ร่วมกันสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน” ของนายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน โดยสายงานวิชาการขานรับ 6 นโยบายหลัก 12 แนวทาง นำมาสานต่อเพื่อให้การปฏิบัติเป็นรูปธรรมและบรรลุเป้าหมายอย่างชัดเจน ได้แก่
เร่งรัดการเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้สมดุลกับปริมาณน้ำต้นทุน
ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ชลประทานโดยไม่เพิ่มน้ำต้นทุน พร้อมออกแบบและปรับปรุงอาคารชลประทานให้สอดคล้องกับระบบนิเวศลุ่มน้ำที่เปลี่ยนแปลงและ Climate change เดินหน้าศึกษาความเหมาะสมโครงการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ตลอดจนเร่งรัดโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และโครงการผันน้ำข้ามลุ่มน้ำอย่างสมดุล
บริหารจัดการน้ำ ป้องกันและบรรเทาภัยอันเกิดจากน้ำ บนพื้นฐานข้อมูลที่ชัดเจน
สร้างความตระหนักรู้และจิตสำนึกด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการแปรปรวนของระบบนิเวศ และสนับสนุนโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการทรัพยากรน้ำกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ
ปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีในทุกภาคส่วนต่องานชลประทาน
มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชน ตลอดจนการมีส่วนร่วมของประชาชนตั้งแต่กระบวนการศึกษา สำรวจ ออกแบบซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาแหล่งน้ำ
ปรับปรุงการเข้าถึงข้อมูลด้านน้ำให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว
เน้นการนำเสนอในรูปแบบ Infographic ที่เข้าใจง่ายและทันสมัย เพื่อให้เข้าถึงประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พัฒนานวัตกรรมในการทำงาน
ส่งเสริม ต่อยอด ตลอดจนสนับสนุนโครงการวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งเสริมให้บุคลากรพัฒนาและต่อยอดองค์ความรู้ของตนเอง
พัฒนาหลักสูตรในการฝึกอบรม เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ของบุคลากร ให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับมาใช้ในการปฏิบัติงาน ตลอดจนส่งเสริมงานวิจัยต่างๆเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทํางานตามภารกิจขององค์กร
"สายงานวิชาการพร้อมเดินหน้าการดำเนินงานภายใต้การขับเคลื่อนนโยบาย RID UNITED โดยมุ่งมั่นพัฒนากำลังคนและองค์ความรู้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้การดำเนินงานด้านการบริหารจัดการน้ำมีความยั่งยืนและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในทุกพื้นที่" นายวิทยาฯ กล่าวในที่สุด