เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2567 กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้จัดงาน "มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม" ปีที่ 2 ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี โดยมี พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายธีรยุทธ แก้วสิงห์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ, นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเสม็ด ร่วมเปิดงาน "มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม" ปีที่ 2

     พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่า สำหรับการจัดงาน "มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม" ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของกระทรวงยุติธรรมในการสร้างสังคมที่ประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมความสงบสุขอย่างยั่งยืน เนื่องจาก"หนี้ครัวเรือน" เป็นภาระเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นความทุกข์ของประชาชน กระทรวงยุติธรรมจึงมุ่งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเชิญชวนเจ้าหนี้มาเจรจาและปรับโครงสร้างหนี้ให้เป็นธรรม โดยเฉพาะการแก้ปัญหาหนี้ กยศ. ซึ่งมีผู้ค้างชำระประมาณ 3.5 ล้านคน หากสามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้ทั้งหมด จะช่วยปลดภาระผู้ค้ำประกันอีก 3.5 ล้านคน รวมถึงช่วยลดดอกเบี้ยจากคำพิพากษาเหลือ 0.5% และนำเงินที่ชำระไปแล้วมาหักเงินต้น เพื่อช่วยให้ลูกหนี้สามารถผ่อนชำระได้ในระยะยาว ลดภาระการถูกหักเงินเดือนโดยตรง ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีเงินเหลือเพื่อดูแลครอบครัวและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

    นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมยังให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหา หนี้บัตรเครดิต ซึ่งมีจำนวนกว่า 24 ล้านใบ รวมถึง หนี้เช่าซื้อรถยนต์ และ หนี้นอกระบบ ที่คิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ หากตรวจสอบพบว่าดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จะถือเป็น "โมฆะ" และเงินที่ชำระไปแล้วจะถูกนำไปหักเงินต้นแทน ซึ่งช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้กับประชาชนโดยตรง ทั้งนี้กระทรวงยุติธรรมมีแผนขยายการจัด "มหกรรมแก้หนี้" ไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งพัฒนาระบบ การปรับโครงสร้างหนี้ออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการยื่นคำร้องและติดตามผลได้ง่ายยิ่งขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน และจะเดินหน้ามาตรการแก้หนี้อย่างเป็นธรรม ควบคู่ไปกับการยกระดับเศรษฐกิจ ส่งเสริมการค้าการลงทุน สนับสนุนผู้ประกอบการ SME และเพิ่มการจ้างงาน โดยเฉพาะในพื้นที่อุตสาหกรรม เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

    พันตำรวจเอก ทวี กล่าวเสริมว่า โดยภายในงานยังมีบริการและกิจกรรมต่าง ๆ ครบวงจร อาทิ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาททั้งคดีแพ่ง คดีอาญา และคดีผู้บริโภค การให้คำปรึกษาทางกฎหมายโดยทนายความและเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ การช่วยเหลือด้านการขอปล่อยตัวชั่วคราวและการช่วยเหลือทางการเงิน รวมถึงนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพ