“รองนายกฯ ประเสริฐ” เปิดโครงการ “สำมะโนประชากรและเคหะ 2568” ยกระดับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเต็มรูปแบบ จัดเก็บฐานข้อมูล “แม่นยำ-รวดเร็ว-ปลอดภัย” เพื่อวางแผนเดินหน้าพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานเปิดโครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2568 ภายใต้แนวคิด “เพราะทุกคนสำคัญทุกข้อมูลมีความหมาย ร่วมสร้างอนาคตไทยให้ดีขึ้น Everyone Counts, Everyone Matters” โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NSO) เพื่อสร้างการรับรู้ถึงความสำคัญของโครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนคนไทยและชาวต่างชาติที่พำนักในไทยตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปร่วมให้ข้อมูลกับสำนักงานสถิติแห่งชาติผ่านช่องทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป โดยได้เปิดตัว นายณัฐวุฒิ สกิดใจ นักแสดงชื่อดัง เป็นพรีเซ็นเตอร์โครงการเพื่อช่วยสื่อสารและกระตุ้นให้ประชาชนเชื่อมั่นการให้ข้อมูล
นายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดีอี มุ่งมั่นวางรากฐานสำคัญเพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านดิจิทัลของประเทศไทย พร้อมเดินหน้าปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัล ผ่านนโยบาย Cloud First Policy, e-Office และระบบ Paperless เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน เพิ่มความรวดเร็ว และยกระดับบริการภาครัฐให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และหนึ่งในภารกิจสำคัญของปีนี้ คือ โครงการสำมะโนประชากรและเคหะ โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลจากวิธีดั้งเดิม (Traditional Census) เป็นรูปแบบดิจิทัล (Digital Census) ซึ่งประชาชนสามารถตอบแบบสอบถามผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นลำดับแรก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการให้ข้อมูล และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนร่วมตอบแบบสอบถามสำมะโนประชากรและเคหะ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป
“ขอให้ประชาชนมั่นใจในการให้ข้อมูล เพราะสำนักงานสถิติแห่งชาติ สร้างช่องทางที่น่าเชื่อถือบนแอปพลิเคชันทางรัฐ เว็บไซต์ทางรัฐ และเว็บไซต์สำนักงานสถิติแห่งชาติ เพื่อทำให้ทุกคนมั่นใจว่าจะไม่มีการหลอกลวง เพราะทุกคนสำคัญ ข้อมูลที่ทุกท่านให้เราจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม และทำให้ภาครัฐจัดสรรทรัพยากรให้ตรงกับความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้น ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าวย้ำ
ด้านนายภุชพงค์ โนดไธสง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวในการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “Everyone Counts : สำมะโนประชากรและเคหะ 2568” ว่า ในปี 2568 นี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติกำลังดำเนินโครงการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประชาชนทุกคน นั่นคือ โครงการสำมะโนประชากรและเคหะ ซึ่งจะเก็บข้อมูลของทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย รวมถึงคนไทยที่ไปต่างประเทศชั่วคราว เจ้าหน้าที่ในต่างประเทศ และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทยตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป โดยจะเก็บข้อมูลพื้นฐาน เช่น เพศ อายุ สัญชาติ การศึกษา การทำงาน และข้อมูลที่อยู่อาศัย และได้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่าทำไมต้องทำสำมะโนประชากร โดยให้ลองดูกรุงเทพมหานคร ที่มีประชากรอาศัยอยู่จริงอาจถึง 10 ล้านคน แต่ข้อมูลทะเบียนราษฎร์กลับมีไม่ถึง 6 ล้านคน ความแตกต่างนี้ส่งผลต่อการวางแผนพัฒนาในทุกด้าน ดังนั้นข้อมูลสำมะโนประชากรจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางแผนพัฒนาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรงกับความเป็นจริง
ในครั้งนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ปรับเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำ รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น เรียกว่า Digital Census ประชาชนสามารถตอบแบบสอบถามผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นลำดับแรก โดยสามารถให้ข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เว็บไซต์ “ทางรัฐ.com” หรือ เว็บไซต์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ “www.nso.go.th” ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 และยังมีคุณมาดีลงพื้นที่เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 21 เมษายน - 19 มิถุนายน 2568 กรณีที่ครัวเรือนใดไม่สะดวกในการให้ข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์
สำนักงานสถิติแห่งชาติให้ความสำคัญสูงสุดกับการรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคล และจะไม่เปิดเผยข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้โดยเด็ดขาด โดย นายภุชพงค์ โนดไธสง ได้ทิ้งท้ายโดยการเชิญชวนประชาชนทุกคน ร่วมตอบแบบสอบถามผ่านช่องทางออนไลน์ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เพราะทุกคนสำคัญ ข้อมูลของทุกท่านจะมีส่วนในการพัฒนาประเทศไทยสู่อนาคตที่ดีขึ้น และได้ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคนที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสำมะโนประชากรและเคหะ 2568
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับหน่วยงาน 3 ส่วนสำคัญ ประกอบด้วย การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการตอบแบบสอบถามออนไลน์ โครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2568 ระหว่างสำนักงานสถิติแห่งชาติ กับ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) , “การประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้และเก็บรวบรวมข้อมูลโครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2568” ระหว่าง สำนักงานสถิติแห่งชาติ กับ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด และ “การส่งข้อความสั้น (SMS) เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตอบแบบสอบถามออนไลน์ โครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2568” ระหว่าง สำนักงานสถิติแห่งชาติ กับ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AIS) , บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TRUE) และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนโครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2568 ไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จต่อไป