นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์) ให้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานของร้านค้าธงฟ้าประชารัฐในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้ไปตรวจเยี่ยมที่ ห้างทวีกิจพลาซ่า อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งภายในร้านมีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าชัดเจน มีการจัดมุมสินค้าธงฟ้าประชารัฐในราคาต่ำกว่าปกติร้อยละ 15-20 และมุมสินค้าชุมชนโดยนำสินค้าในท้องถิ่น ทั้งอาหารสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปมาจำหน่าย เช่น กุ้งจ่อม น้ำปลาร้า ข้าวบรรจุถุงของจังหวัดบุรีรัมย์ ผักสด กลุ่มแม่บ้าน ขนมจีนสมุนไพรอบแห้ง เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามประกาศหลักเกณฑ์ของกรมการค้าภายใน ที่กำหนดให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐต้องปฏิบัติ และเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการให้มีการเชื่อมโยงสินค้าชุมชนทั้งในท้องถิ่นและระหว่างจังหวัด เพื่อขยายช่องทางการตลาดให้กับสินค้าชุมชนและประชาชนมีโอกาสเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น
ปัจจุบันมีร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ 18,653 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อย 11.43 ล้านคน สามารถซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐได้ ผลการดำเนินงานโครงการฯ 7 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค. 60 - เม.ย.61) มียอดใช้จ่ายมากกว่า 22,000 ล้านบาท และในเฟสที่ 2 จะมีการเพิ่มเครื่อง EDC อีก 20,000 เครื่อง เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น โดยเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐของกระทรวงพาณิชย์10,000 เครื่อง และเป็นร้านค้าของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ 10,000 เครื่อง
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐต้องปฏิบัติ เช่น ให้มีการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าประชารัฐในราคาไม่สูงกว่าที่กรมฯ กำหนด ไม่ฉวยโอกาสปรับราคาจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้น ต้องปิดป้ายแสดงราคา ห้ามคิดเงินเพิ่มจากราคาสินค้า เช่น คิดค่ารูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คิดภาษีมูลค่าเพิ่มซ้ำซ้อน คิดค่าธรรมเนียม เป็นต้น ซึ่งกรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศจะดำเนินการตรวจสอบอยู่เสมอ ทั้งนี้ ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินมาตรการอย่างเฉียบขาดในการเพิกถอนสิทธิการเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และหากมีการจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควรอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ