เวลา 18.00 น. วันที่ 1 เมษายน 68 ที่หาดนางคอย ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นางธารตะวัน จรูญพงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเลย/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเลย นายประยูร อรัญรุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายอภินันท์ สุวรรณโค  นายอำเภอเชียงคาน หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และนักท่องเที่ยว ร่วมกิจกรรม “ชิมอาหารพื้นถิ่นริมหาด ชมบรรยากาศสองฝั่งโขง @หาดนางคอย ณ เลย” 
    
ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าว เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน ภายใต้นโยบายกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นการท่องเที่ยวทางเลือกที่บริหารจัดการโดยชุมชนเพื่อให้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวตกอยู่กับคนในชุมชน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์  ซึ่งจะมีมัคคุเทศน์น้อยรอต้อนรับนักท่องเที่ยวพาชมความสวยงามของหาดนางคอยที่มีลักษณะเด่นของชายหาดจะมีสีขาว

โดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึง เมษายนของทุกปี ซึ่งหากไม่มีการปล่อยน้ำจากประเทศจีน น้ำโขงจะแห้งและจะมีหาดทรายและโขดหินโผล่ขึ้นมาตรงลำน้ำโขง เป็นหาดแนวโค้งกว่า 2 กิโลเมตร จะมองเห็นฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน พร้อมชมบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำโขง และชิมเมนูอาหารพื้นถิ่น ส่วนใหญ่เป็นเมนูจากแม่น้ำโขง เช่น แจ่วกุ้ง กุ้งฝอยแพ ต้มยำปลา และต้มปลาแม่น้ำโขง เมนูเชิดชูอาหารถิ่นจังหวัดเลย โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาท่องเที่ยวได้ตั้งแต่เวลา 08.00 - 20.00 น. มีร้านอาหารท้องถิ่นบริการนักท่องเที่ยวจำนวนหลายร้านด้วยกัน

สำหรับความเป็นมาของหาดนางคอย ชาว สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงมาพบรักกับสาวไทยและแต่งงานกัน คือนางโสภี ทองเต็ม ชาวบ้านคกงิ้ว ต.ปากตม อ.เชียงคาน มีลูกด้วยกัน 1 คน โดยสามี ชาว สปป.ลาว มีอาชีพหลักทำการเกษตรและประมง หาปลาในแม่น้ำโขง จึงเดินทางข้ามฝั่งลาวเพื่อหาปลา จะหลับมาหานางโสภีบ้าง ไม่กลับบ้าง ระยะหลัง นานๆ จะกลับมาที นางโสภีผู้เป็นภรรยาได้แต่เฝ้ารอคอยการกลับมาของสามีที่หัวคก บริเวณหาดทรายแห่งนี้จนพลบค่ำ วันแล้ววันเล่า หลายวัน หลายเดือน และแรมปี จนตรอมใจเสียชีวิต ณ หาดทรายแห่งนี้ ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า “หาดนางคอย” ตั้งแต่นั้นมา