ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
แม่ค้าข้าวกล่องสุดเซ็งลุงหัวร้อนปล่อยควันดำพุ่งใส่ร้าน
12 เม.ย. 2568
“ศรีสะเกษ” แม่ค้าข้าวกล่องสุดเซ็งลุงหัวร้อนเบิ้ลเครื่องปล่อยควันดำพุ่งใส่ร้านข้าวแกงเสียหาย ชิ่งหนีไร้รับผิดชอบ
 
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2568  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพเหตุการณ์ รถปิกอัพคันหนึ่งจอดอยู่บริเวณริมถนนเยื้องกับโรงพยาบาลภูสิงห์ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ จู่ๆได้ทำการเบิ้ลเครื่องยนต์ จนส่งผลทำให้เกิดควันดำพวยพุ่งจากท่อไอเสียออกมาใส่ร้านค้าขายอาหาร ข้าวกล่อง ที่อยู่บริเวณนั้นแบบเต็มๆ จนได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2568 
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ไปพบกับ น.ส.นิตยา กลิ่นจันทร์ อายุ 26 ปี ชาว ต.ห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าของร้านผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุช่วงเวลา ประมาณ เวลา 08.00 น. ขณะตนกำลังขายข้าวกล่องอยู่นั้น ได้มีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 50-60 ปี มาจอดรถซื้ออะไรไม่ทราบตนไม่ทันได้สังเกต เพราะตนกำลังวุ่น้ๆกับการขายข้าวกล่องอยู่ในตอนเช้า ต่อมารถคันดังกล่าว ได้เบิ้ลเครื่องรถต์ ซึ่งตนคิดว่ารถคันดังกล่าวเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะเบิ้ลรถปล่อยควันดำใส่ร้านตน แต่กลับทำให้อาหารและสิ่งของที่ตนเตรียมไว้ขายเสียหาย
 
 
จากนั้นจังหวะที่เขากำลังจะออกรถ ตนจึงได้รีบวิ่งไปบอกให้เจ้าของรถออกมาดูความเสียหาย ซึ่งเป็นเขม่าดำจากท่อไอเสียตกใส่อาหาร จนไม่สามารถขายต่อได้ เพราะเป็นคราบน้ำมัน จนต้องเสียลูกค้า และต้องมาทำความสะอาดร้านและสิ่งของ ซึ่งคนขับรถคันดังกล่าวได้ลงจากรถมาแล้วทำทีฉุนเฉียว พร้อมกับถามว่า อยากได้ค่าเสียหายเท่าไหร่พูดมาเลย ตนก็ตอบว่า ขอค่าเสียหายแค่ 300 บาทพอ เขาก็ตอบว่าไม่ให้ อยากได้ให้ไปแจ้งความเอา จากนั้นเขาก็เดินไปที่รถแล้วขับหนีไป 
 
น.ส.นิตยา กลิ่นจันทร์ เล่าต่อไปอีกว่า ถ้าวันเกิดเหตุเขาลงมาขอโทษตนสักคำ ตนก็จะไม่อะไรมาก ก็จะไม่ติดใจอะไรเลย แต่กลับเป็นว่าหลังลงมาจากรถ ก็พูดจาไม่ดีใส่ตนเลย ทั้งที่ตนเป็นผู้เสียหาย เราไม่ได้เป็นฝ่ายไปทำความเดือดร้อนให้เขา ถึงเขาจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ก็ควรต้องมีคำขอโทษ ควรต้องมีจิตใต้สำนึกบ้าง.
 
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน
 
 
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
03 เม.ย. 2568
จากสถาปนิกหนุ่ม ..... สู่สายธารเพื่อสังคมคนเขาใหญ่ ปัจจุบันในพื้นที่เขาใหญ่นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย และด้วยอาณาบริเวณโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทั้งเทือกเขาที่รายล้อมไปทั่ว และยังรวมถึงธารน้ำที่รื่นร่มอีกหลายแห่ง ที่สำคัญไม่ห่างไก...