วันพฤหัสบดีที่ 1 พ.ค. 2568
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
กาญจนบุรี - กัญชาไทยสู่กัญชาโลก
01 พ.ค. 2568
กัญชาไทยสู่กัญชาโลก 2 ผู้ประกอบการปลูกกัญชาทางการแพทย์ไทยแลนด์ บุกกรุงเบอร์ลิน ร่วมประชุมธุรกิจกัญชานานาชาติ (ICBC 2025) ชี้ ทิศทางกัญชาไทย กับ นิยามกัญชาทางการแพทย์ ที่รัฐบาลไทยควร ส่งเสริม สนับสนุน อย่างจริงจัง
วันนี้ 1 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานนิคมอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์แห่งประเทศไทย ผู้ได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชารายใหญ่ที่สุดของประเทศ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 29-30 เม.ย.ที่ผ่านมา ผมพร้อมด้วย ดร.ณัฎฐพัชร กุลการัณย์เลิศ ประธานบริหารบริษัท เอ็กซ์ตร้า แคนนาบิส จำกัด บริษัทผู้ปลูกกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศ ทั้งแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ได้เดินทางไปร่วมประชุมธุรกิจกัญชานานาชาติ (ICBC 2005) ที่จัดขึ้นภายในโรงแรม Hotel Estrel Berlin กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ตามคำเชิญของคณะจัดงานการประชุมธุรกิจกัญชานานาชาติ (ICBC 2005)
โดยการจัดงานการประชุมปีนี้เป็นปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมกัญชาที่ถูกกฎหมายที่เกิดขึ้นใหม่ในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งการประชุมธุรกิจกัญชานานาชาติ (ICBC 2025) เป็นหัวใจสำคัญของงานนี้ โดยมีผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกัญชากว่า 5,000 คน จากกว่า 80 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วม และนอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการจากทั่วโลกได้นำเครื่องมือและอุปกรณ์ตรวจสอบมาตรฐานกัญชาทางการแพทย์ ที่นำไปสู่การใช้กัญชาเป็นยารักษาโรคทางการแพทย์สำหรับกลุ่มแพทย์ทางเลือกมาแสดงภายในงานกว่า 400 บูธอีกด้วย
นายวิศารท์ เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน ตลาดกัญชาทางการแพทย์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของเยอรมนี มีมูลค่าอยู่ที่ 1.2 พันล้านยูโร และมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2034 ICBC Berlin จะเติบโตถึง 4.6 พันล้านยูโร การประชุม ICBCกัญชาทางการแพทย์จึงถูกมองว่าเป็นจุดนัดพบเชิงกลยุทธ์ สำหรับทุกคนที่ต้องการเข้าสู่หรือขยายตลาดกัญชาให้ขายได้กับบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตามข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษา Zuanic & Associates พบว่าการทำให้กัญชาถูกกฎหมาย อาจมีมูลค่าสูงถึง 1.7 พันล้านยูโร ภายในสิ้นปี 2025 นี้ โดยในงานมีการบรรยายหลายครั้งกับผู้เชี่ยวชาญ ทำให้โอกาสในการทำเครือข่าย และคุณสมบัติใหม่ๆ เช่น การเข้าใช้ร้านขายยาและคลินิกกัญชาแบบ VIP ฟรี พื้นที่บริโภคภายในสถานที่ เครือข่ายความเร็ว และกิจกรรมโต้ตอบในพื้นที่จัดนิทรรศการ
วันนี้ผู้ปลูกกัญชาในประเทศไทยจะต้องปรับตัว เรื่องการควบคุมมาตรฐาน การปลูก การจัดเก็บ EU GMP GLOBAL GMP GACP รวมถึง การพัฒนาสายพันธุ์ เพื่อให้กัญชา มีผลผลิตที่ดีที่สุดและ บริสุทธิ์ที่สุด เพื่อจะต่อสู้ในตลาดของยุโรป และในอีกหลายตลาดในกลุ่มอเมริกา ด้านการตลาดจะสอดคล้องกับคุณภาพ และมาตรฐาน วันนี้นวัตกรรมการปลูกไปไกล รวมถึงนวัตกรรมทางการแพทย์ มาตรฐานผลผลิตก็ต้องไปด้วย หากเราทำได้ และทำตลาดให้ดี จะถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่ดีที่สุด จะทำรายได้ให้เกษตรกรชาวไทยได้จำนวนมหาศาล
นายวิศารท์ฯ กล่าวว่า ผมในฐานะประธานนิคมอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์แห่งประเทศไทย ผู้ได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชารายใหญ่ที่สุดของประเทศ อยากให้รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขหรือกรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เข้ามาให้การสนับสนุนส่งเสริมให้เกษตรกรไทย ที่ได้รับอนุญาตโดยร่วมกันจัดทำโรดโชว์ให้กับต่างประเทศในกลุ่มยุโรปที่มีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์การลักลอบส่งออกและการลักลอบปลูกฟาร์มกัญชาเถื่อนในไทย
เพราะจุดอ่อนของข้อกฎหมายไทยคือการบังคับใช้กฎหมายต่ออุตสาหกรรมพืชกัญชาการแพทย์ของประเทศไทย และผมในฐานะผู้ส่งออกจากประเทศไทยได้เจรจากับผู้นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อจะริเริ่มจัด MOU.ร่วมกันเสนอต่อรัฐบาลของแต่ละประเทศ เพื่อผลักดันให้มีกฎหมายระหว่างประเทศหรือสนธิสัญญาร่วมกัน ระหว่างประเทศไทยกับคู่ค้าในกลุ่มยุโรป เพื่อส่งเสริมให้ทางด้านการตลาดของกัญชาทางการแพทย์จากประเทศไทย จะได้เติบโตตามสถานการณ์โลก การเข้าสู่ งาน ICBC ทุกปี ทำให้เห็นว่าการพัฒนาของตลาดยุโรป มีการพัฒนามากขึ้น มีการพบปะผู้ซื้อ ผู้ขาย เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกกัญชาไทยพัฒนาร่วมกันโดยเรียนรู้การขยายตัวของพืชกัญชาให้มากขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้นจากเจตนารมณ์การส่งเสริมการปลูกกัญชาทางการแพทย์ของรัฐบาลไทย ถูกกำหนดตั้งขึ้นมาเพื่อให้กัญชาทางการแพทย์เป็นพืชเศรษฐกิจของไทย หากไม่มีการสนับสนุนส่งเสริมอย่างแท้จริง สุดท้ายกัญชาทางการแพทย์จะไม่ถูกนำไปใช้เพื่อเพื่อประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและเสียโอกาสของเกษตรกรไทยที่ปลูกกัญชาทางแพทย์ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สามารถปลูกและพัฒนาผลผลิตเพื่อการขายส่งออกทำรายได้ให้แก่ประเทศไทยปีล่ะหลายหมื่นล้านบาท ” นายวิศารกท์ พจน์ประสาท กล่าว
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
