กระทรวงพาณิชย์ เชิญประธานเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศรับมอบนโยบายการดำเนินงาน และร่วมหารือแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการฐานราก โดยสนับสนุนให้ MOC Biz Club เป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษาทางธุรกิจในลักษณะพี่สอนน้อง เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งโดยใช้โมเดลจากประเทศอังกฤษ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมพัฒนา-ธุรกิจการค้า เชิญประธานเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ เข้ามารับฟังนโยบายและร่วมหารือแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการรายเล็กในระดับฐานรากในวันนี้ (21 พฤษภาคม 2561) ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (Local Economy) เนื่องจากเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ โดยมุ่งให้ผู้ประกอบการ SME รายย่อย หรือ Micro SME ทั่วประเทศ มีพี่เลี้ยงคอยให้คำปรึกษาแนะนำ มีการสร้างเครือข่ายพันธมิตรและช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสาร และแหล่งเงินทุน ผ่านการ บูรณาการขับเคลื่อนงานหรือโครงการ “ตามแนวทางประชารัฐ” ระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน โดยมุ่งให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม จน Micro SME เหล่านี้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตามเป้าประสงค์สูงสุดของรัฐบาล
“ปัจจุบันเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศซึ่งถือว่าเป็นลูกของกระทรวงพาณิชย์ มีสมาชิกจำนวน 10,870 ราย แบ่งเป็น 5 ภาค ได้แก่ 1) ภาคกลาง มีสมาชิก 3,519 ราย 2) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีสมาชิก 2,693 ราย 3) ภาคเหนือ มีสมาชิก 2,590 ราย 4) ภาคใต้ มีสมาชิก 1,360 ราย และ 5) ภาคตะวันออก มีสมาชิก 728 ราย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ มุ่งหวังให้เครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club นอกจากจะเป็นการรวมกลุ่มของธุรกิจขนาดเล็กที่จะคอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันแล้วยังอยากให้เป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษาให้แก่ Micro SME ในพื้นที่จังหวัดของตนเอง และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น (Local Economy) ผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจทั้งระดับจังหวัด ภูมิภาค และประเทศ เพื่อพัฒนาศักยภาพทางการค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยดำเนินงานในรูปแบบ “ประชารัฐ” ซึ่งมีพาณิชย์จังหวัดเป็นแกนกลางเชื่อมโยงการทำงาน ร่วมกับเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club เพื่อร่วมกันคิด พัฒนาและดำเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังมีแผนการเชื่อมโยงสินค้าชุมชน/สินค้าของสมาชิก MOC Biz Club เข้าสู่ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งจะทำให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และประชาชนผู้มีรายได้น้อยมีทางเลือกในการซื้อสินค้าจากท้องถิ่นที่มีคุณภาพดีและราคาไม่แพง โดยกระทรวงฯ ได้กำหนดให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐนำสินค้าชุมชน เข้าไปจำหน่ายในร้าน ซึ่งเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club จะเป็นตัวกลางสำคัญในการเชื่อมโยงและนำสินค้าชุมชน สินค้าท้องถิ่นเข้าสู่ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐสามารถช่วยกระจายสินค้าและเพิ่มช่องทางการค้าให้กับสินค้าของสมาชิก MOC Biz Club ด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีแผนที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคธุรกิจ รวมถึงผู้ประกอบการฐานรากใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันโดยการลดต้นทุน ลดระยะเวลา เพิ่มช่องทางการค้า มีสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และผู้ประกอบการไทย โดยการผลักดันเข้าสู่ช่องทางออนไลน์โดยร่วมมือกับ e-Marketplace ทั้งในและต่างประเทศ เช่น Tmall.com เว็บขายสินค้าออนไลน์ในเครือของ Alibaba รวมทั้งยังได้ร่วมมือกับตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์อื่นๆ อีกหลายราย เช่น amazon.com และ e-bay.com เพื่อเจาะตลาดสหรัฐฯ รวมถึงเว็บไซต์ชื่อดังอื่นๆ ของเกาหลี แอฟริกา อินเดีย เป็นต้น ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ และการส่งต่อไปยัง thaitrade.com เพื่อสร้างโอกาสในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ต้องอาศัยโอกาสในการเชื่อมโยงสินค้าและบริการเข้าสู่ e-Marketplace ชั้นนำเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของชุมชน สร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการฐานราก และความเข้มแข็งให้ท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดตัวเว็บไซต์ “ของดีทั่วไทย.คอม” www.kongdeetourthai.com ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวจะรวบรวมของดี (ซึ่งต้องดีจริงๆ) จากทั่วประเทศ และจะเป็น อีกหนึ่งช่องทางในการจำหน่ายสินค้าชุมชนต่อไป