นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำทัพผู้ประกอบการภาพยนตร์ชั้นนำของไทย บุกตลาดเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2018 สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 750 ล้านบาท ด้านกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ประกาศหนุนธุรกิจภาพยนตร์ไทยเข้าตลาดโลกอย่างจริงจัง
สำหรับเทศกาลหนังเมืองคานส์ ถือเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี งานนี้เป็นเวทีประกวดภาพยนตร์นานาชาติ ที่มีหนังเข้าร่วมฉายกว่า 800 เรื่อง และเป็นตลาดซื้อขายภาพยนตร์และธุรกิจบริการด้านภาพยนตร์และสื่อบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ภายใต้ชื่องาน Marche du Film 2018 โดยจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 – 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และมีผู้ซื้อและนักลงทุนผู้อยู่ในธุรกิจด้านภาพยนตร์จากทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 12,000 คน
หนึ่งในภารกิจสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ภายใต้นโยบายส่งเสริม Creative Economy ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการสร้างองค์ความรู้ นำความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการไทย ส่งเสริมให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ธุรกิจบันเทิงด้านภาพยนตร์ ถือเป็นสาขาหนึ่งของ Creative Economy ที่ไทยมีศักยภาพสูง เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมในด้านบุคลากรที่มีความสามารถ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีสถานที่ถ่ายทำที่หลากหลายและสวยงาม รวมไปถึง Post Production & VFX (Visual Effect) ที่มีคุณภาพ และ Animation ของไทยเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานติดต่อกันเป็นปีที่ 12 โดยครั้งนี้ มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน 10 บริษัท ซึ่งกรมได้จัดทำนัดหมายล่วงหน้า (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับนักธุรกิจอุตสาหกรรมภาพยนตร์ TOP 300 ของโลก ส่งผลให้มีการจับคู่ธุรกิจถึง 390 ครั้ง เกิดมูลค่าการค้ากว่า 750 ล้านบาท การเจรจาที่ก่อให้เกิดมูลค่าสูงสุดคือ การสร้างภาพยนตร์ร่วมกัน (Co-Production) ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ผลิตภาพยนตร์จากประเทศฝรั่งเศส จีน อินเดีย และอังกฤษ การขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ให้กับต่างชาติ อาทิ จีน ไต้หวัน ลาตินอเมริกา มาเลเซีย เป็นต้น ตลอดจน ผู้จัดงานภาพยนตร์จากประเทศโปแลนด์ เบลเยี่ยมและสหราชอาณาจักร ยังให้ความสนใจนำภาพยนตร์ไทยไปฉายในงานของแต่ละประเทศ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
นโยบายของรัฐบาลที่จะสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ จึงออกมาตรการจูงใจคืนเงินค่าใช้จ่าย (Cash Rebate) แก่ผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศที่มีการสร้างภาพยนตร์ในประเทศไทย ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับกรมการท่องเที่ยว ได้มีการประชาสัมพันธ์มาตรการดังกล่าวภายในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์เพื่อส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยให้มากขึ้น เป็นการดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศ ก่อให้เกิดการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างชาติเป็นอย่างดี
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศไทยจะมุ่งเน้นการส่งเสริมวงการภาพยนตร์ไทยและอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในต่างประเทศ โดยสนับสนุนความร่วมมือและการร่วมทุนจากต่างประเทศ พร้อมทั้งดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเพื่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ซึ่งกรมได้พาผู้ประกอบการไทยไปเข้าร่วมงานฟิล์มมาร์ทที่ฮ่องกง เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและมีแผนจะไปเข้าร่วมงานอเมริกันฟิล์มมาร์เก็ต ที่ลอสแอนเจลิสในปลายปีนี้