นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่นายแจ๊ค หม่า ผู้บริหาร Alibaba Group เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการค้าสินค้าเกษตรไทยไปประเทศจีน ทางบริษัทมีความสนใจจะสั่งซื้อทุเรียนไทยส่งไปขายผ่านออนไลน์ในประเทศจีน จึงได้ให้บริษัท Shanghai Win Chin Supply Management ซึ่งเป็นบริษัทจัดซื้อในเครือของอาลีบาบาเจรจาการค้ากับตัวแทนสหกรณ์ 3 แห่ง ในภาคตะวันออก
ทั้งนี้ ได้แก่ สหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ จำกัด จังหวัดระยอง สหกรณ์การเกษตรมะขาม จำกัด จังหวัดจันทบุรี และสหกรณ์การเกษตรเขาสมิง จำกัด จังหวัดตราด โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเพื่อให้เกิดการพบปะพูดคุยระหว่างกัน ซึ่งทางตัวแทนของอาลีบาบาได้แสวงหาความร่วมมือในการทำธุรกิจซื้อขายทุเรียนกับสหกรณ์โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง และคาดหวังที่จะได้ผลไม้ที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน ซึ่งทางฝ่ายไทยได้ยืนยันว่าขณะนี้สหกรณ์ชาวสวนผลไม้ได้ส่งเสริมให้สมาชิกปลูกทุเรียนและผลไม้ตามฤดูกาลโดยยึดตามมาตรฐาน GAP ตั้งแต่ในสวน การเก็บเกี่ยวไปจนถึงการคัดคุณภาพก่อนส่งจำหน่ายให้กับคู่ค้า
“ทุเรียนของไทยที่จะส่งจำหน่ายให้อาลีบาบา ทางบริษัทจำนำไปขายทางออนไลน์และร้านสะดวกซื้อที่เป็นเครือข่ายตั้งยู่ในเมืองต่างๆ ของจีน สิ่งที่บริษัทต้องการคือผลไม้คุณภาพดี มีความสด และรสชาติดั้งเดิม ดังนั้น ผลไม้ที่จะส่งไปถึงจีนต้องอยู่ในสภาพที่สดใหม่เหมือนกินอยู่ในสวน และถึงจีนโดยเร็วที่สุด และคาดว่าในอีก 2 สัปดาห์ทางอาลีบาบาจะส่งทีมงานลงพื้นที่เพื่อให้มีความมั่นใจว่าจะได้ทุเรียนที่มีคุณภาพ และจะมีการวางระบบโลจิสติกในการขนส่งสินค้าเพื่อให้ทุเรียนจากประเทศไทยไปถึงจีนได้เร็วสุด" นายเชิดชัย กล่าว
ในฤดูกาลผลิตปี 2561 สหกรณ์ในภาคตะวันออกได้วางแผนในการรวบรวมทุเรียนจากสมาชิกประมาณ 5,170 ตัน มูลค่า 309.49 ล้านบาท แบ่งเป็นทุเรียนสด 4,670 ตัน มูลค่า 219.490 ล้านบาท และทุเรียนแช่แข็ง 500 ตัน มูลค่า 90 ล้านบาท ขณะนี้ทางสหกรณ์ได้จัดทำแผนการจำหน่ายผลผลิตล่วงหน้าไว้หมดแล้ว แต่ก็อาจจะมีสหกรณ์บางแห่งในจังหวัดตราดกับระยอง ที่พอจะมีผลผลิตทุเรียนส่งขายให้ทางบริษัทและพร้อมพูดคุยที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจกับทางอาลีบาบาได้ทันฤดูกาลปีนี้ ในส่วนสหกรณ์ในจังหวัดจันทบุรี จะเริ่มการค้าได้ภายในฤดูกาลผลิตปี 2562 โดยทางบริษัทฯ แจ้งว่ามีความต้องซื้อทุเรียนระยะเวลา 3 ปี ประมาณ 3,000 ล้านหยวน ซึ่งในช่วงเริ่มต้น สหกรณ์อาจมีผลผลิตส่งขายให้ทางบริษัทฯ ได้ไม่มากนัก แต่บริษัทก็ไม่ได้ห่วงเรื่องปริมาณแต่จะเน้นเรื่องคุณภาพของทุเรียนเป็นอันดับแรก
ปีนี้อาจจะเป็นการทดลองเรื่องระบบการเจรจาซื้อขายและการขนส่ง ทุเรียนในภาคตะวันออกจะออกผลผลิตมากในเดือนพฤษภาคม ซึ่งสหกรณ์สามารถผลิตทุเรียนคุณภาพได้ไม่เกิน 5 พันตันต่อฤดูกาล และแนวโน้มราคาจำหน่ายในปีนี้สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มาเนื่องจากคาดว่าผลผลิตจะออกมาไม่มาก ซึ่งการผลิตทุเรียนคุณภาพต้นทุนต่อไร่ค่อนข้างสูง แต่คุณภาพเนื้อทุเรียนจะมีความอร่อย ซึ่งต้องอาศัยการดูแลอย่างดีและต้องได้มาตรฐาน