BGRIM ประกาศ 2 ดีลใหญ่ เทกโอเวอร์โซลาร์ฟาร์มขนาดกำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ ในจังหวัดนครปฐม และอยุธยา สามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที 500 ล้านบาทในไตรมาส 3/61 พร้อมจ่อเซ็นสัญญาร่วมทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ในอาเซียน 420 เมกะวัตต์ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ หนุนผลงานในช่วงปีหน้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด-กำไรทะลัก
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวนทั้งสิ้น 8 โครงการ ในจังหวัดนครปฐม และอยุธยา ขนาดกำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุน 600 ล้านบาท โดยซื้อจากบริษัทยันฮี โซล่า เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนในโครงการ โดยบริษัทฯ จะเข้าเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจาก 49% เป็น 100% ในนามบริษัท บี.กริม ยันฮี โซลาร์ จำกัด
หลังจากปรับโครงสร้างการถือหุ้นแล้วเสร็จ BGRIM สามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในไตรมาส 3/61 โดยโครงการนี้มีสัญญาขายไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นเวลา 25 ปี จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วตั้งแต่สิ้นปี 2558 มีรายได้ ปีละกว่า 500 ล้านบาท EBITDA ปีละกว่า 400 ล้านบาท และกำไรสุทธิปีละกว่า 100 ล้านบาท ผลักดันให้รายได้และกำไรของ บริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ ภายในเดือนมิถุนายน 2561 บริษัทฯ เตรียมเซ็นสัญญาร่วมทุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและในอาเซียนขนาดกำลังการผลิต 420 เมกะวัตต์ ร่วมกับบริษัท Xuang Cau Co.,Ltd. ดังนั้นจะส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของ BGRIM เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร อันเนื่องมาจากจำนวนกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าต่างประเทศเพิ่มเป็น 30% ภายในปี 2565 จากปัจจุบัน 6% และตั้งเป้าสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มเป็น 30% จากเดิมที่ 12% ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้กว่า 65% ในอีก 5 ปี ข้างหน้า
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/61 บริษัทย่อยมีรายได้จากการขายการให้บริการจำนวน 8,156 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิปรับปรุง 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง 3) (ABPR 3) ซึ่งเปิดดำเนินการเชิง
พาณิชย์ (COD) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 กำลังการผลิต 133 เมกะวัตต์ และการเพิ่มขึ้นของความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร แหลมฉบัง และเหมราช
นอกจากนี้จะมีโครงการ SPP อีก 2 โครงการ ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง กำลังการผลิตรวม 266 เมกะวัตต์ ที่จะ COD ตามกำหนดในช่วงเดือนมิถุนายน 2561 และ เดือนตุลาคม 2561ตามลำดับ และ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งร่วมกับองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกและสหกรณ์การเกษตร จำนวนรวม 7 โครงการ กำลังการผลิตรวม 31 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 1 โครงการใน สปป.ลาว กำลังการผลิต 15 เมกะวัตต์ ที่จะ COD ภายในปีนี้อีกด้วย