ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
รองนายกฯ ประเสริฐ สั่งเข้มเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม-ภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง
27 พ.ค. 2568


“รองนายกฯ ประเสริฐ” เป็นประธานการประชุม กนช. ครั้งที่ 4/2568 กำชับทุกหน่วยงานบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูฝนนี้ อย่างรัดกุมที่สุดเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน และให้เตรียมแผนช่วยเหลือทันทีหากเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำจากฝนทิ้งช่วง
พร้อมเห็นชอบในหลักการ (ร่าง) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนฯ มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน
และกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล 

วันนี้ (26 พฤษภาคม 2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 4/2568 โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม 801 ชั้น 8 อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) โดยรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน
อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยสถานการณ์น้ำที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน สัปดาห์ที่ผ่านมาจึงได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในจังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดยโสธร จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี โดยกำชับหน่วยงานบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมวางแผนเตรียมจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้
โดยในวันพรุ่งนี้ (27 พฤษภาคม 2568) จะเดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นประธานเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า
ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขงเหนือ เพื่อบริหารจัดการมวลน้ำในช่วงฤดูฝน ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ที่พบการปนเปื้อนสารโลหะหนักที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน พร้อมทั้ง
เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดิน เพื่อเร่งรัดขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำดังกล่าวให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยคลี่คลายสถานการณ์และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วต่อไป

สำหรับการประชุมในวันนี้ ได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 โดยได้มอบหมายให้จังหวัด
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามข้อมูลสภาพอากาศและปริมาณฝน รวมถึงเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมการป้องกันหากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ขณะเดียวกัน ให้กรมชลประทาน
และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และปรับแผนการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ให้มีปริมาณน้ำที่เหมาะสมเพื่อรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ โดยให้คำนึงถึงปริมาณน้ำในช่วงฤดูแล้งถัดไปด้วย พร้อมเน้นย้ำให้ สทนช. กำกับและบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงติดตามการดำเนินงานตามมาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเข้มข้น เพื่อช่วย
ลดผลกระทบต่อประชาชนและพื้นที่เศรษฐกิจต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด

นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและอ่างเก็บน้ำที่เฝ้าระวังน้ำน้อย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดสกลนคร จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดกาฬสินธุ์ แม้ขณะนี้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค
แต่เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนยังคงมีน้อย จึงได้มอบหมายให้จังหวัด กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งซ่อมแซมหรือปรับปรุงแหล่งน้ำ บ่อบาดาล รวมถึงระบบประปาหมู่บ้านที่อยู่ในความรับผิดชอบ
ให้พร้อมใช้งานและสามารถเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนไว้ใช้ในฤดูแล้ง เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตรตามลำดับ อีกทั้งได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำจากสภาวะฝนทิ้งช่วง โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน จะต้องมี
การเตรียมแผนรับมือเพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อว่า ที่ประชุมวันนี้ยังได้มีมติเห็นชอบในหลักการ (ร่าง) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนเป็นกรณีเร่งด่วน และเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 22,309 รายการ เป็นโครงการที่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองและตรวจสอบโดย สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผ่านคณะกรรมการลุ่มน้ำเสนอความเห็น โดยทั้งหมดเป็นโครงการที่มี
ความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ภายในช่วง 1 ปี หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงระบบประปาและมีน้ำสะอาดใช้เพิ่มขึ้น 2.4117 ล้านครัวเรือน นอกจากนี้ พื้นที่ทำการเกษตรนอกเขตชลประทานที่มีโอกาสเกิดภัยแล้ง 22.36 ล้านไร่ ยังจะได้รับการพัฒนาเป็นพื้นที่การเกษตรที่มีแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำ 2.3 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 9.08 ของพื้นที่ ส่วนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก 13.25 ล้านไร่ จะได้รับการแก้ไขและบรรเทาน้ำท่วม 0.36 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 4.74 ของพื้นที่ ประโยชน์จากโครงการฯ ยังสามารถลด
การชะล้างพังทลายของดินได้ 0.18 ล้านไร่ เกิดการจ้างแรงงานกระจายไปตามภูมิภาคต่าง ๆ ประมาณ 250,000 คนต่อเดือน ครัวเรือนได้รับประโยชน์จากการพัฒนาด้านทรัพยากรน้ำ 3.374 ล้านครัวเรือน และมีมูลค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม 124,648.42 ล้านบาท โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบกำกับการดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 อย่างเคร่งครัด

ด้าน เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบการขอขยายระยะเวลาดำเนินงานและเพิ่มกรอบวงเงินโครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพล้ จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ช่วยสนับสนุนและรองรับการขยายตัวและความต้องการใช้น้ำในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาดำเนินการเดิม 4 ปี (ปีงบประมาณ
พ.ศ. 2565 - 2568) เป็น 6 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - 2570) และขยายกรอบวงเงินงบประมาณจากเดิม 3,651.62 ล้านบาท
เป็น 4,291.62 ล้านบาท และมอบหมายให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการตามแผนอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์โดยเร็ว อีกทั้งที่ประชุมได้พิจารณาการขออนุญาตการใช้น้ำประเภทที่สาม ตาม พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ได้แก่ การใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อกิจการขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำปริมาณมาก หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบข้ามลุ่มน้ำ หรือครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวาง
โดยเป็นคำขออนุญาตของกรมทรัพยากรน้ำ จำนวน 4 คำขอ และกรมชลประทาน 1 คำขอ ซึ่ง สทนช. ได้พิจารณากลั่นกรองและตรวจสอบแล้วว่ามีความครบถ้วนและสอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบและให้กรมทรัพยากรน้ำและกรมชลประทานติดตามการใช้น้ำอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบในประเด็นสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ การปรับปรุงแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ตาม พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด รวมถึงเห็นชอบผังน้ำเพิ่มเติม ได้แก่ ผังน้ำลุ่มน้ำสาละวิน เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา และใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำต่อไป

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 พฤษภาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 พ.ค. 2568
หากจะพูดถึง “ภาพยนตร์ไทย” แล้ว ผ่านสถานการณ์ลุ่มๆ ดอนๆ มาเป็นระยะ นั่นอาจเป็นเพราะมีปัญหาด้วยกันหลายด้าน แต่ที่สำคัญก็คือ “ความนิยม” ที่ได้รับจากผู้ชมชาวไทย แต่ก็ใช่ว่า ภาพยนตร์ไทยจึงถึง จุดอับเป็นเสียทีเดียว เพราะก็มีบางเรื่อง “...