นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) พร้อมด้วย นายประสงค์ คุ้มประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการฯ ขึ้นรับรางวัล Asia Responsible Entrepreneurship Awards 2018 ในสาขา Green Leadership เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสาธารณูปโภคหน่วยงานเดียวของประเทศไทยที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ ในฐานะองค์กรในภูมิภาคเอเชียที่มีความโดดเด่นในการดำเนินนโยบายที่คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากโครงการ “Smart Metro Poles for Thailand’s Coast Protection” ซึ่งเป็นโครงการที่ กฟน. นำเสาไฟฟ้าที่รื้อถอนและไม่ใช้งานแล้วจากโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินในโครงการต่างๆ นำมาปักเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ณ Manila Marriott Hotel กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
ผู้ว่าการ กฟน. เปิดเผยว่า รางวัล Asia Responsible Entrepreneurship Awards 2018 สาขา Green Leadership ที่ กฟน. ได้รับเป็นหน่วยงานสาธารณูปโภคเดียวในประเทศไทยนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของแนวคิดจากการนำเสาไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน นำไปทำประโยชน์ในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียนที่ใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า โดยในปัจจุบัน กฟน. ได้ดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ดำเนินโครงการบนถนนพหลโยธิน พญาไท สุขุมวิท ศรีอยุธยา ราชปรารภ และพระรามที่ 1 ซึ่งเป็นพื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร พร้อมส่งมอบเสาไฟฟ้าที่รื้อถอนส่งมอบให้กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) แล้วจำนวนทั้งสิ้น 1,344 ต้น เพื่อใช้สนับสนุนการดำเนินโครงการปลูกป่าในใจคนตามศาสตร์พระราชาของ กทม. ในการสร้างแนวป้องกันคลื่นช่วยฟื้นฟูและป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลกรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน และภายใน 5 ปี (2561-2566) กฟน. มีเป้าหมายส่งมอบเสาไฟฟ้าในทุกโครงการเพื่อใช้กันคลื่นกัดเซาะบริเวณชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน จำนวน 10,000 ต้น เพื่อให้ครอบคลุมชายฝั่งทะเลกรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน เป็นระยะทางประมาณ 4.7 กิโลเมตร และมอบให้กองทัพเรือ เพื่อใช้ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า จังหวัดสมุทรปราการ 5,000 ต้น รวมเป้าหมายการส่งมอบ 15,000 ต้น
ทั้งนี้ เสาไฟฟ้าของ กฟน. มีลักษณะเป็นแท่งคอนกรีต มีคุณสมบัติที่เหมาะสมแข็งแรง อายุการใช้งานนานประมาณ 30 ปี ซึ่งมีอายุการใช้งานมากกว่าเสาไม้ทั่วไปกว่า 30 เท่า อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นจากโครงสร้างลวดเหล็กภายในเสาไฟฟ้า ทำให้สามารถรับแรงดัดได้มากถึง 3.5 ตันเมตร หรือหักโค้งได้ประมาณ 7-8 เซนติเมตร ทำให้มีความแข็งแรงทนทาน สามารถลดความแรงของกระแสน้ำทำให้มีปริมาณการสะสมของตะกอนหลังเขื่อนเพิ่มมากขึ้น ต้นกล้าและลูกไม้ที่อยู่หลังแนวป้องกันมีปริมาณหนาแน่นขึ้น รวมถึงฟื้นฟูธรรมชาติมีการกลับมาอาศัยของสัตว์น้ำนานาพันธุ์และนกนานาชนิด มีแนวโน้มการอยู่รอดเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมดของ กฟน. มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 214.6 กิโลเมตร มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2564 ล่าสุดได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ 43.5 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 20.3 และส่วนที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 171.1 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 79.7 อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 กฟน. ยังมีแผนการดำเนินโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินเพิ่มเติมในพื้นที่ ถนนวิทยุ และพิจารณาเส้นทางอื่นๆ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจอีกด้วย
สำหรับงาน Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2018 จัดขึ้นเป็นปีที่ 10 โดย Enterprise Asia ซึ่งเป็นองค์กรที่ส่งเสริมการทำประโยชน์แก่สังคมและสนับสนุนการเป็นองค์กรชั้นนำอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการในภูมิภาคเอเชียเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาด้านเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในชุมชนท้องถิ่น อีกทั้งเป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาคและมีการมอบรางวัลประเภทต่างๆ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยประกอบด้วยรางวัล 6 สาขา ได้แก่ Green Leadership Award, Investment in People Award, Health Promotion Award, Social Empowerment Award, Corporate Governance Award และ Responsible Business Leadership Award