ไทย - ลาว เชื่อมสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 เตรียมเปิดใช้ 19 ธ.ค.นี้ ตอกย้ำสัมพันธ์ 75 ปี “สุริยะ” จัดแผนสร้างแห่งที่ 6 เชื่อมอุบลราชธานี - สาละวัน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ท่านสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ นาง มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเทคอนกรีตเชื่อมสะพานและพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยกรรมสิทธิ์ การใช้ การบริหาร และการบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ณ จังหวัดบึงกาฬ วันนี้ (6 มิ.ย.) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยงระบบคมนาคมระหว่างไทย สปป.ลาว และเวียดนาม ยกระดับการเดินทาง การขนส่งและโลจิสติกส์
สำหรับสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ปัจจุบันความคืบหน้างานก่อสร้าง 98% โดยโครงสร้างหลักของสะพานแล้วเสร็จเหลือเพียงเก็บรายละเอียดของงาน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือน ต.ค. - พ.ย.นี้ และจะเปิดให้ใช้บริการเต็มรูปแบบ 19 ธ.ค.2568 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและ สปป.ลาว
โดยภายหลังจากการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 กระทรวงฯ มั่นใจว่าจะสนับสนุนให้มูลค่าการค้าชายแดน ไทย - สปป.ลาว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากขณะนี้มีมูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาท และสะพานแห่งนี้จะเชื่อมต่อไปยังเส้นทางโลจิสติกส์สำคัญ รวมถึงท่าเรือน้ำลึกของเวียดนามช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ
พร้อมกันนี้ราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีการเชื่อมโยงผ่านสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงขนาดใหญ่แห่งแรก ระหว่างจังหวัดหนองคายและนครหลวงเวียงจันทน์ ในปี 2537 ต่อมาที่มุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขต นครพนมและแขวงคำม่วน และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว และในวันนี้กำลังจะเชื่อมสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 โดยเชื่อว่าการพัฒนาการเชื่อมโยงระหว่างประเทศยังมีการเติบโตพัฒนามากขึ้นแบบไม่หยุดยั้ง
“อนาคตอันใกล้ยังมีแผนจะดำเนินโครงการสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 6 เชื่อมจังหวัดอุบลราชธานีกับแขวงสาละวัน ซึ่งจะช่วยเติมเต็มโครงข่ายคมนาคมตามแนวระเบียงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น”
สำหรับสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 6 (อุบลราชธานี - สาละวัน) มีจุดเริ่มต้นโครงการอยู่บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย และมีจุดสิ้นสุดที่บริเวณแขวงสาละวัน ประเทศ สปป. ลาว เชื่อมโยงทางหลวงหมายเลข 2112 ในไทยและโครงข่ายทางหลวงใกล้เคียงหมายเลข 13 (R13) ใน สปป.ลาว
โดยสะพานดังกล่าวมีรูปแบบเป็นสะพานโค้ง (arch bridge) ความยาวสะพานรวม 1,607 ม. ก่อสร้างตัวสะพานช่วงข้ามแม่น้ำยาว 1,020 ม. ช่วงสะพานบนบกฝั่งไทยยาว 517 ม. ฝั่งสปป. ลาวยาว 70 ม. นอกจากนี้งานก่อสร้างในโครงการยังประกอบด้วยงานถนนฝั่งไทย 4.325กม. และถนนฝั่งสปป. ลาว 17.509 กม., อาคารด่านพรมแดนในฝั่งไทยและฝั่งสปป. ลาว และมีจุดเปลี่ยนทิศทางการจราจรอยู่ในฝั่งไทย
ขณะที่มูลค่าการก่อสร้าง ประเมินวงเงินรวม 4,910 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นมูลค่าฝั่งไทย 2,557 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่างานก่อสร้าง 2,312 ล้านบาท ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 78 ล้านบาท และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% 167 ล้านบาท และมูลค่าฝั่งสปป. ลาว 2,353 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าก่อสร้าง 2,073 ล้านบาท ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 66 ล้านบาท และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 10% 214 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ฝ่าย สปป. ลาว อยู่ระหว่างพิจารณาการขอปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้าง โดยเปลี่ยนลักษณะของทางแยกจุดตัดของถนนในโครงการกับถนน R13 เป็นรูปแบบวงเวียน และเปลี่ยนขนาดถนนของโครงการจาก 2 เป็น 4 ช่องจราจร ซึ่งจะทำให้งบประมาณของฝั่ง สปป. ลาวเพิ่มขึ้นประมาณ 310 ล้านบาท
ด้านนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2563 และคาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดให้ประชาชนได้ใช้สัญจรภายในปี 2568 โดยโครงการสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 เป็นโครงการเชื่อมต่อกับถนนทางหลวง ทล.222 อำเภอเมืองบึงกาฬกับถนนสาย 13 เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ ทั้งนี้ ภายหลังพิธีเทคอนกรีตเชื่อมสะพาน กรมทางหลวงจะเตรียมความพร้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการอนุญาตข้ามแดนต่อไป