นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรภาค 2 และ เมืองพัทยา ได้มีแนวคิดร่วมกัน ในการยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพยสินของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาในเมืองพัทยา ด้วยเมืองพัทยามีกล้องวงจรปิดรวมแล้วเกือบ 2,500 ตัว ทั้งเป็นฝั่งและเกาะล้าน ทั้งนี้ทางตำรวจภูธรภาค 2 และเมืองพัทยา จึงได้การเดินทางไปดูงานที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารงานเทคโนโลยีของหน่วยงาน
หลังจากศึกษาดูงานเสร็จ ได้มีแนวคิดร่วมกัน เลือกเมืองพัทยา เป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องของตำรวจภูธรภาค 2 ในการเชื่อมโยงระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ด้วยเทคโนโลยี AI และเชื่อมโยงข้อมูลกับฐานข้อมูลส่วนกลาง เพื่อใช้ในการตรวจสอบผู้กระทำผิดหรือบุคคลที่มีหมายจับ ซึ่งในปัจจุบันได้ใช้ระบบนี้ ในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วม 3 ฝ่าย คือ เมืองพัทยา ตำรวจภูธรภาค 2 โดยสภ.เมืองพัทยา และหน่วยสอบสวนกลาง ในการทำงานร่วมกัน
นายปรเมศวร์ เปิดเผยต่ออีกว่า ขณะนี้ได้มีการกำหนดจุดพื้นที่ในการติดตั้งกล้องวงจรปิด ด้วยเทคโนโลยี AI ในการเชื่อมโยงระบบของหน่วยสอบสวนกลาง ซึ่งจุดที่ติดตั้งจะเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางท่องเที่ยวหนาแน่น โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เป็นคนมอนิเตอร์ ทั้งนี้หากการดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด ด้วยเทคโนโลยี AI แล้วเสร็จจะสามารถตรวจเช็คบุคคลที่มีคดีและผู้ต้องหาที่มีหมายจับ เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป การติดตั้งกล้องในครั้งนี้จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักมท่องเที่ยว ในเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย อีกทั้งยังเป็นการยกระดับความปลอดภัย ทั้งนี้คาดว่าภายในเดือนมิถุนายนนี้จะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จ