ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 123 ปี กรมชลประทาน ภายใต้แนวคิด “123 ปี พลังน้ำ พลังอนาคต (Power of Water – Power Driven Future)” โดยมี นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายถาวร ทันใจ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ อาคาร 99 ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำภู กรมชลประทาน ถนนสามเสน กรุงเทพฯ
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนภารกิจสำคัญของกรมชลประทานในการสืบสานพระราชปณิธานด้านการบริหารจัดการน้ำ ขยายโอกาสการเข้าถึงน้ำในทุกพื้นที่ เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วนทั่วประเทศ โดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา กรมชลประทาน ได้มีการดำเนินงานการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำควบคู่ไปกับการป้องกันความเสียหายจากน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ พร้อมทั้งมุ่งมั่นเดินหน้าปฏิบัติงานภายใต้การบริหารงานตามนโยบาย “RID UNITED” ภายใต้แนวคิด “ร่วมกันสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน”
ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ กรมชลประทาน 20 ปี (พ.ศ.2561 - 2580) และมุ่งสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะภายในปี 2580 เน้นการทำงานร่วมกันอย่างมีมาตรฐาน บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ตลอดจนพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ อีกทั้งยกระดับการทำงานในองค์กรให้ทันสมัย สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลก และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศปัจจุบัน พร้อมเดินหน้าพัฒนาการทำงานอย่างไม่หยุดนิ่ง มุ่งสู่การบริหารจัดการน้ำที่มั่นคงและยั่งยืน
สำหรับการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี 2567/68 ที่ผ่านมา กรมชลประทานสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนทุกภาคส่วนอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะด้านการเกษตร มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังทั่วประเทศกว่า 10 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่า 9 แสนไร่
โดยไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ ด้านพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำ มีการวางแผนเพาะปลูกได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้สามารถขยายพื้นที่เพาะปลูกได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 60,000 ไร่ โดยผลผลิตไม่ได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งเดินหน้ารับมือฤดูฝน ปี 2568 อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้มากที่สุด
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสำคัญอีกมากมาย อาทิ พิธีมอบเกียรติบัตรองค์กรคุณธรรม พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณข้าราชการพลเรือนดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี 2567 พิธีมอบรางวัลการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการประเภทโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา/โครงการชลประทาน และฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษา ประจำปี พ.ศ. 2568 และรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2567
ตลอดจนการเสวนาด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายภาคส่วน และกิจกรรมการบริจาคเลือด สะท้อนบทบาทที่สำคัญของกรมชลประทานในการเดินหน้าสู่อนาคต ด้วยพลังแห่งน้ำ เพื่อขับเคลื่อนความมั่นคงด้านน้ำ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างยั่งยืน