ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีประชาชนได้ร้องเรียนว่า ในพื้นที่ ตำบลบางขะแยง อำเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางขะแยง และมีการบุกรุกเข้าบ้านผู้ร้องเรียนเพื่อทำลายหลักฐานต่างๆ จนมีการแจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่ได้พยายามเข้าไปวิ่งราวทรัพย์กล้องวงจรปิด ที่เป็นหลักฐานสำคัญในการซื้อเสียง รวมทั้งยังมีชาวบ้านอีกหลายรายที่เข้าแจ้งความเกี่ยวกับซื้อสิทธิ์ขายเสียง จนเป็นข่าวดังตามสื่อต่างๆ

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 ทาง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.กลาง) ได้มีหนังสือ "ด่วนที่สุด" ที่ ลต.0912/9800 ถึง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี เรื่องการ ประกาศแจ้งผลการรับรองและไม่รับรอง สมาชิกเทศบาลและนายกเทศมนตรีในจังหวัดปทุมธานี โดยหลังสือระบุดังนี้

"ด่วนที่สุด"
ที่ ลต.0912/9800

ถึง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี

   ตามที่ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ในจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 นั้น 

   สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเรียนว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีมติเห็นชอบให้ประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีในจังหวัดปทุมธานี เมื่อวัน 4 มิถุนายน 2568 (ยกเว้นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสามโคก เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอสามโคก จำนวน 1 ราย นายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางขะแยง เขตเลือกตั้งที่ 1-2 อำเภอเมืองปทุมธานี)
สำหรับประกาศผลการเลือกตั้ง (ส.ถ./ผ.ถ.6/1) ดังกล่าว จะได้จัดส่งให้สำนักงานคณะกรรมการ
ประจำจังหวัดต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ซึ่งหนังสือดังกล่าวนี้ ได้มีการแพร่กระจายให้ประชาชนและชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบางขะแยง ได้รับรู้กันทั่วไป จนกระทั่งได้มีกระแสข่าว ออกมาว่ากลุ่มของผู้ที่ถูกร้อง ก็ได้มีการเคลื่อนไหว และพยายามที่จะวิ่งเต้น ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ รวมทั้งพยายามที่จะล็อบบี้และวิ่งเคลียร์ไปยังผู้ที่ร้องเรียน เพื่อให้แก้คำร้องเรียนต่าง ๆ ทั้งที่มีการแจ้งความดำเนินคดีที่โรงพัก จนเป็นข่าวครึกโครม

ซึ่งการกระทำดังกล่าว ของกลุ่มผู้ที่ซื้อเสียงหรือผู้ที่ถูกร้องนี้ ทางชาวบ้านและผู้ร้อง ก็ได้มีการไปร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี และ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.กลาง) เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมของผู้ที่ถูกร้อง รวมทั้งมีการขอให้คุ้มครองพยาน พร้อมกันนี้ถึงกับมีการปล่อยข่าวว่าได้มีการวิ่งเต้นเคลียร์กันฝุ่นตลบ ถึงกับมีกระแสข่าวจนชาวบ้านลือว่าเรื่องนี้มีการวิ่งเต้นล้มคดีกันด้วยเลข 7 หลักเลยทีเดียว"

   จนกระทั่งปรากฏว่า เมื่อวันนี้ 13 มิถุนายน 2568 ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ได้มีการส่งหนังสือมาถึง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี (กกต.ปทุมธานี) ให้ประกาศผลรับรอง นายก เทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางขะแยง ขึ้นมาจนได้ เป็นเหตุให้ทั้งกลุ่มผู้ร้องและชาวบ้านต่างก็สงสัยและงุนงงอย่างมาก ว่าเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อมีการร้องเรียนเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงและยังมีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวไปทั่ว จนเป็นข่าวดัง ซึ่งถือว่าตำบลบางขะแยงเป็นเพียงพื้นที่เดียวในจังหวัดปทุมธานี ที่ครั้งแรกครบกำหนด30วันมีหนังสือว่าไม่มีการรับรอง (ยกเว้น) แต่หลังผ่านจาก30วันมาเพียง 3-4 วันก็กลับมามีการรับรองนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลทั้งหมด นี่ขนาดมีการร้องเรียนหลักฐานมากมายและยังอยู่ขั้นตอนการสอบสวน ข้อร้องเรียนต่าง ๆ มีจำนวนมาก กกต.จังหวัดปทุมธานี หรือ กกต.กลาง ช่วยชี้แจงให้ชาวบ้านและผู้ที่ร้องเรียนให้หายข้อสงสัย ว่าเรื่องราวนี้ทำไมถึงรีบรับรองเร่งด่วนอย่างน่าสงสัย เป็นประการใดจะรายงานให้ทราบต่อไป

ต่อมา วันที่ 17 มิถุนายน 68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ น.ส.สง่า ทาทอง ผอ.กกต.จ.ปทุมธานี ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี (กกต.จ.ปทุมธานี) ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวันที่ ได้มีการรับรอง นายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางขะแยง ทั้งที่มีหนังสือจาก กกต.เกี่ยวกับการประกาศจะไม่รับรองหรือยกเว้น ทั้งผู้สมัครนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาฯ ในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลบางขะแยง แต่ปรากฏผ่านมาไม่กี่วัน ก็มีหนังสือรับรองขึ้นมานั้นเกิดอะไรขึ้น

ผอ.กกต.ปทุมธานี กล่าวว่า ในเรื่องของการรับรองเป็นอำนาจของ กกต.ถ้าตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ท่านสามารถใช้อำนาจของท่านดำเนินการรับรองไปก่อน แต่ในเรื่องของรายละเอียดในการสืบสวนไต่สวนแม้จะรับรองแล้ว กกต.ก็ยังดำเนินการสืบสวนไต่สวนต่อไป สำหรับกรณีที่มีคำร้องนี้ ไม่ต้องห่วงเรายังต้องทำงานเต็มที่เหมือนเดิม เพราะว่าถ้าปรากฏว่าผู้สมัครมีการกระทำความผิดจริง แม้จะเข้าสู่ตำแหน่งแล้ว กกต. วินิจฉัยไปในแนวทางใด ก็ต้องสงศาลในส่วนของศาลอุทรณ์ท่านก็พิจารณาอีกครั้ง ก็กรณีนี้ก็เป็นการรับรองในภาพรวมทั้งประเทศออกไปอยู่แล้วค่ะ 

ก่อนหน้านี้ที่จะมีการประกาศรับรอง นายกเทศมนตรีและสมาชิกเทศบาลตำบลบางขะแยง ทาง กกต.ปทุมฯ ได้มีการคัดค้าน หรือมึการค้านไปยัง กกต.กลางหรือไม่ว่า ยังทำการสืบสวนไต่สวนไม่เสร็จ

ผอ.กกต.ปทุมธานี กล่าว ว่า ตรงนี้เป็นข้อมูลที่การพิจารณา โดยส่วนนี้ขอไม่ให้รายละเอียด เพราะว่าเดี๋ยวจะมึผลกระทบในเรื่องการทำงานของสำนักงาน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ซึ่งเมื่อมีการรับรองไปแล้วจะมีผลอึกมากน้อยแค่ไหน ที่จะมีการไปร้องต่อศาล

ผอ.กล่าว คือขั้นตอนของการทำงาน ผอ.นำเรียนให้ทราบอย่างนี้ก่อนว่า สำนวนที่ กกต.กรณี กกต.ประกาศผลไปแล้ว มีเรื่องร้องที่เรากำอยู่ในระหว่างดำเนินการสืบสวนไต่สวน ถ้าเสร็จในชั้นจังหวัด แล้วก็ส่งไปให้ กกต.พิจารณาถ้า กกต.เห็นว่ามันมีการกระทำความผิดจริงตามคำร้อง กกต.ก็สามารถที่จะมีมติสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้ แต่การมีมติสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ของ กกต.เนี่ยมันเป็นการสั่งหลังประกาศผลการเลือกตั้ง ก็ต้องส่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา ซึ่งการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ถ้าศาลอุทธรณ์เห็นตาม กกต. ว่ามันมีการไม่สุจริตและเที่ยงธรรมเกิดขึ้นในการเลือกตั้ง ศาลอุทธรณ์ก็จะสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ แล้วก็เพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของตัวผู้สมัครเอง ก็คือในเรื่องของการให้ใบดำหรือใบแดงก็คือการเพิกถอนสิทธิ์ที่เลือกตั้ง ต้องรอเป็นเรื่องสำนวนพิจารณาให้แล้วเสร็จที่จะต้องดำเนินการหลังประกาศผล กรอบระยะเวลาอยู่ประมาณ 90 วันในชั้นจังหวัด แต่ภาพรวมจนเสร็จสิ้นในเรื่องของการทำคำวินิจฉัยจนไปยื่นต่อศาลจะเสร็จภายในเวลาประมาณ 1 ปี

สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม หน.ข่าวภูมิภาค 0816235473