กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 โดย พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ และ พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 รับผิดชอบงานสืบสวนและงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดีที่น่าสนใจต่อสื่อมวลชน ซึ่งผลการจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายเน้นหนักของ “บิ๊กปู” พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ที่ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมือง เช่น อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือ overstay และชาวต่างชาติที่มีลักษณะเป็นอาชญากร หรือเป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม.
โดย พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 กล่าวเปิดเผยว่า ผลการจับกุมนี้ สืบเนื่องมาจากชุดสืบสวน กก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับข้อมูลจากสายลับว่า มีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้ อยู่ในราชอาณาจักร โดยการอนุญาตสิ้นสุด ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาล มอบหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เน้นหนักในการกวดขันและปราบปราม
ต่อมา เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 11.00 น. หลังได้รับสั่งการดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ที่เป็นชุดสืบสวน ได้นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวหลังได้รับข้อมูลจากสายลับว่าบุคคลต่างด้าวที่เป็นเป้าหมายมักจะมารับประทานอาหารกับกลุ่มเพื่อนที่ย่านการค้าแห่งหนึ่งใกล้เซ็นทรัลบางนา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังกันสังเกตการณ์ เนื่องจากชุดสืบสวนเชื่อว่า บุคคลต่างด้าวเป้าหมายจะต้องมาปรากฏตัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ ได้พบบุคคลต่างด้าวลักษณะคล้ายคนเกาหลีใต้ มีตำหนิรูปพรรณใกล้เคียงกับที่สายลับแจ้ง เดินออกจากโซนร้านอาหารมาที่บริเวณลานจอดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงบัตรประจำตัวให้ดูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารประจำตัว หรือหนังสือเดินทางของผู้ถูกจับ ผลการตรวจสอบทราบชื่อผู้ถูกจับคือ MR.JI HOON (นามสมมุติ) สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 66 ปี เดินทางเข้ามาราชอาณาจักรล่าสุด เมื่อปี พ.ศ.2561 วีซ่าอนุญาตถึงกลางปี พ.ศ.2562 การอนุญาตสิ้นสุดลงแล้วกว่า 6 ปี เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และควบคุมตัวผู้ถูกจับมาที่ กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. เพื่อทำบันทึกจับกุมและนำตัวผู้ถูกจับส่ง พงส. กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับพฤติการณ์ที่เป็นที่มาของการจับกุม เมื่อปลายปี พ.ศ.2565 ผู้ต้องหารายนี้ ได้วางอุบายจัดฉากอาชญากรรมโดยจัดหาเด็กสาวอายุไม่เกิน 18 ปีให้กับเหยื่อที่บ้านพักพูลวิลล่า ในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี และได้เก็บรวบรวมหลักฐานสำหรับแบล็คเมล์เหยื่อ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีกับผู้เยาว์ พร้อมขู่ว่าจะส่งข้อมูลให้ตำรวจไทยในพื้นที่พัทยา เพื่อให้เหยื่อถูกจับกุม ต่อมาผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกที่เกาหลีใต้อีกอย่างน้อย 2 คน ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้แล้ว ข่มขู่บังคับให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่ประเทศเกาหลีใต้ คิดเป็นความเสียหายเป็นจำนวน 170,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6 ล้านบาทไทย ต่อมาประเทศเกาหลีใต้ ได้อนุมัติหมายจับและยื่นคำร้องต่อ NCB ตำรวจสากล ขอให้เผยแพร่ Interpol Red Notice ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุมตัวได้ในที่สุด
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / รายงาน