ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
กยท.เร่งแก้ปัญหา สู้โรคใบร่วงยางพารา พื้นที่ 3.9 แสนไร่ 19 จังหวัด
21 มิ.ย. 2568

กยท.เร่งแก้ไขปัญหา โรคใบร่วงยางพารา 3.9 แสนไร่ ในพื้นที่ 19 จังหวัด บูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้องทำแปลงสาธิต 9 วิธี ค้นหาต้นแบบวิธีแก้ ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด มั่นใจยับยั้งได้

นายเพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ หรือใบจุดกลม ในยางพารา ว่า กยท.กำลังเร่งการดำเนินงานแก้ไขปัญหา โดยได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การระบาดที่รุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ลดลงตามลำดับ  

เมื่อเทียบกับสถานการณ์การระบาดในสวนยางของประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็น ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย เวียดนาม และศรีลังกาแล้ว สถานการณ์การระบาดในประเทศไทยน้อยกว่ามาก นอกจากนี้ ยังสามารถฟื้นฟูสวนยางที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย

ทั้งนี้ กยท.ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขการระบาดของโรคใบจุดกลมในยางพารามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาแนวทาง และวิธีการบำรุงรักษา ตลอดจนแนวทางป้องกันการระบาด โดยขยายผลสู่การปฏิบัติในแปลงเกษตรกรใน 4 พื้นที่ คือ พื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ที่จังหวัดสงขลา พื้นที่ภาคใต้ตอนกลาง ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคใต้ตอนบน ที่จังหวัดชุมพร และภาคตะวันออก ที่จังหวัดระยอง จนทำให้การระบาดลดลง

จากที่เคยระบาดในสวนยางพาราของเกษตรกรชาวสวนยาง เมื่อช่วงปี 2564 - 2565 มากถึง  1 ล้านไร่  จนล่าสุด ขณะนี้เหลือการระบาดอยู่ประมาณ 3.9 แสนไร่  ในพื้นที่ 19  จังหวัด คือ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สงขลา น่าน สุโขทัย อุดรธานี สตูล หนองคาย เชียงราย บึงกาฬ พังงา ระยอง เลย ระนอง สุราษฎร์ธานี พะเยา นครพนม และกาญจนบุรี  โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ระบาดรุนแรงกว่าภูมิภาค อื่นๆ มีแนวโน้มที่ลดลง 

 

ด้าน ดร.กฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง กยท.เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาการระบาดโรคใบจุดกลมในยางพาราดังกล่าว กยท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการร่วมกัน ภายใต้โครงการบริหารจัดการโรคใบจุดกลมในยางพาราพื้นที่จังหวัดยะลา โดย กยท. ได้จัดสรรงบประมาณกว่า 3 ล้านบาท จัดทำแปลงสาธิต เพื่อหาแนวทาง และวิธีการในการแก้ปัญหาโรคโรคใบจุดกลมในยางพารามา เพื่อใช้เป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาโรคฯ ในพื้นที่ต่าง ๆ รวม 9 วิธี 

คือ การใช้แอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0)  การใช้น้ำหมักปลาหมอคางดำ การใช้เชื้อแบคทีเรียปฏิปักษ์ Bacillus subtilis sp. การใช้ปุ๋ย Rynan smart Fertilizers การใช้เชื้อไตรโครเดอร์มาร่วมกับปุ๋ย 30-5-18 การใช้เชื้อไมคอร์ไรซา ร่วมกับชีวภาพละลายฟอสเฟต การใช้สารชีวภัณฑ์ มรย.1 การใช้สาร พด.14 และการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ  

โดยจะเก็บข้อมูลวิธีการที่เหมาะสม ในการแก้ปัญหาโรคใบจุดกลมในยางพารา เพื่อนำไปศึกษาความเปลี่ยนแปลงว่าสามารถป้องกัน ควบคุม กำจัด โรคใบร่วงในยางพาราได้หรือไม่ และเมื่อได้วิธีการที่ดีที่สุดแล้ว กยท.จะนำวิธีการแก้ปัญหาโรคใบร่วงยางพาราดังกล่าวไปขยายผลให้กับเกษตรกรชาวสวนยางรายอื่นต่อไป ซึ่งจะทำให้การระบาดลดลงอย่างแน่นอน 

“โรคใบจุดกลมในยางพารานี้ เกิดจากเชื้อรา Colletotrichum sp. โดยจะระบาดหนักในช่วงฤดูฝน ต้นยางที่เป็นโรคใบร่วง ผลผลิตจะลดลง 30 - 50% ซึ่ง กยท.ได้ติดตามเก็บข้อมูลการระบาดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยแนวทางแก้ไขทั้ง 9 วิธีดังกล่าว กยท.จะเลือกแนวทางที่ดีที่สุดไปขยายผลแก้ไขปัญหา เพื่อยุติการระบาดโรคใบร่วงชนิดใหม่ในประเทศไทยให้ได้" ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง กยท.กล่าว 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 มิถุนายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
17 มิ.ย. 2568
หากจะหันไปมองการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ. ที่ผ่านมาหมาดๆ เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ใน 47 จังหวัดทั่วประเทศ กล่าวได้ว่า กลุ่ม “บ้านใหญ่” กวาดไปได้เป็นส่วนใหญ่ตามคาด และก็มีจำนวนถึง 29 คน ที่คว้าชัยการเลือกตั้งต...