ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา จ.ชลบุรี กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเสริมทรายชายหาดพัทยาว่า สำหรับโครงการดังกล่าวทางกรมเจ้าท่าเป็นเจ้าภาพในการว่าจ้างผู้รับเหมาเพื่อให้เข้ามาดำเนินการเพื่อปรับปรุงพัฒนา และเสริมทรายขนาดความกว้างประมาณ 35 เมตร ตลอดแนวชายหาดในระยะทาง 2.7 กิโลเมตร มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 และกำหนดสิ้นสุดสัญญาว่าจ้างที่จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนมิถุนายน 2559 ในงบประมาณรวมกว่า 430 ล้านบาท เพื่อพัฒนา ปรับปรุง เพิ่มศักยภาพพื้นที่ชายหาดพัทยา ซึ่งส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว และสนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศในภาพรวม หลังพบว่าชายหาดเมืองพัทยามีนัยสำคัญว่ามีปัญหาการกัดเซาะรุนแรง
ทั้งนี้ ปัจจุบันประสบปัญหา และอุปสรรคในการเสริมทรายอย่างมาก จนทำให้โครงการมีความล่าช้า โดยเฉพาะเรื่องของการหาแหล่งทรายที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะนำมาใช้ ส่งผลให้ความคืบหน้าของโครงการมีค่าเฉลี่ยติดลบถึง 39% โดยกรณีนี้ ทางผู้รับเหมาได้ทำหนังสือชี้แจ้งเกี่ยวกับปัญหา และอุปสรรคที่เกิดขึ้นเพื่อชี้แจงไปยังกรมเจ้าท่าแล้ว พร้อมเร่งดำเนินการสรรหาแหล่งทรายโดยเร็ว คาดว่าจะสามารถหาแหล่งทรายที่เหมาะสมต่อทรายชายหาดพัทยาได้ และเชื่อว่าผู้รับเหมาจะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ทันตามสัญญาที่ว่าจ้างไว้แน่นอน
นายเอกราช กล่าวว่า หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จตามสัญญาจ้าง การขยายสัญญาต้องมาดูว่าจะสามารถทำได้หรือไม่เพียงใด ซึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับนโยบายส่วนกลาง ส่วนเจ้าท่าพัทยามีหน้าที่เพียงการดูแลอำนวยความสะดวกในการดำเนินการของผู้รับเหมา เรื่องความปลอดภัยทางน้ำในการจัดการจราจร ไม่มีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวในพื้นที่ดำเนินการโครงการเท่านั้น