ขณะที่ชาวบ้าน สุดทน ขยะและควัน ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ร้องศูนย์ดำรงธรรมไปแล้วแต่ก็ไม่มีความคืบหน้า
วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทาง ไปยังบริเวณ พื้นที่ หมู่ที่ 3 ตำบลเสนา อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบเตาเผาขยะ ตั้งเด่นสง่าอยู่ริมถนน พบขยะที่ถูกนำมาทิ้งเป็นขยะเปียกเศษอาหารขยะทั่วไป แม้แต่ที่นอน ถูกนำมาทิ้งนอกเตาเผาเกลื่อนกระจายออกมายังด้านนอก ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นจนเวียนหัวคลื่นไส้
พบกับ นาย สุชาติ มานิตย์ เจ้าของโครงการบ้านจัดสรร เผยตนเองมีที่ดินอยู่บริเวณดังกล่าวหลายสิบไร่ ด้านหน้ามีการสร้างบ้านจัดสรรและมีผู้อยู่อาศัยแล้วบ้างส่วน นอกจากนั้นยังมีการลงเสาเข็มเพื่อรอขึ้นโครงการบ้านจัดสรร ซึ่งก่อนที่ เจ้าหน้าที่อบต.จะมีการนำเตาเผาขยะมาติดตั้งบริเวณหน้าที่ของตนเอง ที่เป็นทางเข้าโครงการบ้านจัดสรรได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่แล้วว่าไม่ให้ติดตั้ง เนื่องจากมันขวางทางเข้าโครงการหมู่บ้านของตนเอง ในพื้นที่ของตนเอง และก็มีระยะทางที่ใกล้กับบ้านจัดสรรที่มีคนอยู่แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ของอบต.อ้างว่าจะเป็นการติดตั้งเตาเผาขยะชั่วคราว เพื่อจะทำการส่งมอบ เตาเผาขยะ กับผู้รับเหมา จากนั้นก็จะทำการหาที่ติดตั้ง เตาเผาขยะให้เหมาะสมต่อไป
แต่เมื่อผ่านไปประมาณปีกว่า ๆ ก็ไม่ได้มีการย้ายเพื่อนำไปติดตั้งเตาเผาขยะในที่ใหม่ ทำให้ลูกบ้านของตนเองที่อยู่บริเวณโครงการบ้านจัดสรรได้รับความเดือดร้อนเพราะได้กลิ่นจากเตาเผาขยะ โดยเฉพาะควันและกลิ่นอบอวนไปทั่ว อีกทั้งบริเวณที่ตั้งเตาเผาเป็นทางเข้าโครงการที่จะสร้างในเนื้อที่ 10 ไร่ ก็ดำเนินการสร้างไม่ได้ และชาวบ้านที่อยู่ใกล้ ก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน ตนเองได้มีการสอบถามไปยัง อบต.เสนา หลายรอบ จนเราต้องเกรงใจเอง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนก็มีการล่ารายชื่อกว่า 70 คน ร้องศูนย์ดำรงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งตอนนี้ตนเองเดือดร้อนมาก เนื่องจากจะขึ้นโครงการบ้านเพิ่มก็ทำไม่ได้ต้องทิ้งเสาเข็ม คาทิ้งไว้ดูต่างหน้าไม่กล้าสร้างต่อ เพราะเกรงจะได้รับผลกระทบจากเตาเผาขยะ เพราะมองๆเหมือนใครมาตั้งเมรุลอยหน้าบ้าน ใครจะไปกล้าอยู่ หากยังมีเตาเผาขยะมาติดตั้งอยู่ปากทางแบบนี้ ถึงแม้จะเป็นริมทางสาธารณะก็ส่งผลกระทบกับตนเองมาก หากทำแบบนี้ใครจะมาซื้อเป็นที่อยู่อาศัยจึงอยากวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและเร่งหาที่ติดตั้งเตาเผาขยะอันนี้ใหม่ ในจุดที่เหมาะสม
ด้าน นาย พระรถ กลิ่นไทย อายุ 39 ปี 1 ในเจ้าของบ้านที่มาซื้อบ้านอยู่ในพื้นที่ เผยว่าถ้าถึงตอนเผาแล้วลมพัดมาทางบ้านตนเอง ลมก็จะพากลิ่นตลบอบอวนอยู่ในบ้าน ทั้งที่ตนเองมาอยู่ก่อนที่จะ มีการนำเตาเผาขยะมาตั้งอีก เตาเผาขยะพึ่งมาได้ไม่ถึงปี ตนมาอยู่ตรงนี้ก็ไม่ทราบว่ามีการสอบถามหรือถามความคิดเห็นหรือไม่ บ้านอีกหลังก็ไม่ทราบและยังได้ล่ารายชื่อประมาณ 70 คนไปร้องศูนย์ดำรงธรรม ไม่เอาเตาตรงนี้ ก็เงียบหาย ตอนทำประชาคมหรือยกมือเขาก็ไม่รู้เรื่อง ทั้งทั้งที่ว่าอยู่ใกล้เขาเผาขยะที่สุด ถ้าลมพัดมาทางบ้านและช่วงเขาจุดเตาเผาขยะลมจะพัดมาทางบ้าน ทั้งควันและกลิ่นแบบเต็มๆ เรามาซื้ออยากอยู่แบบธรรมชาติเงียบสงบ พอมาเจอแบบนี้ก็ไม่อยากอยู่ ตอนมาซื้อเฟตแรกไม่มี พอเฟต 2 สร้างใกล้เสร็จเตาถึงมาลง ความรู้สึกตอนที่รู้ว่าเตาเผาขยะมาลงก็ไม่อยากให้มาลงตรงนี้บ้านคนมันเยอะมาเจอมลพิษแบบนี้ อยากให้ย้ายออกไปในที่ที่เหมาะสมกว่านี้ ถ้าเป็นไปได้หมู่อื่นมีรถขยะหมดแล้วแต่หมู่นี้ไม่มี อยากให้มีรถขยะมาเก็บขยะจะดีกว่า
ต่อมา นายศิกวัส แก้วมณี ปลัดอำเภออุทัย ทราบเรื่องก็ลงมาดูเบื้องต้นพร้อมพูดคุยกับเจ้าของพื้นที่และชาวบ้าน เปิดเผยว่า ที่ตนมีข้อมูลอยู่ในตอนนี้ อบต.แจ้งว่า ด้วยความที่ อบต.ไม่สามารถดำเนินการจัดเก็บขยะได้ เลยมีโครงการเตาเผาขยะ มาทำประชาพิจาร ของคนในชุมชนแต่ละหมู่แล้ว โดยมีเอกสารมาให้ทางอำเภอ ซึ่งเบื้องต้นทางอำเภอจะทำหนังสือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาตรวจสอบวัดค่ามลพิษ ที่ออกมาจากเตาเผาว่ามีผลกระทบต่อร่างกายหรือเปล่า ถ้ามีก็จะทำหนังสือถึง อบต.ให้ย้ายออกจากตรงนี้ หรือไม่ทางอำเภอจะทำประชาพิจารใหม่ให้คนในหมู่มาลงความเห็นว่าควรอยู่หรือไม่ ซึ่งพบว่าในพื้นที่ ตำบลเสนา มีเตาเผาแบบนี้ทุกหมู่ในเขตการดูแลของ อบต.เสนา เพราะในพื้นที่ไม่มีรถจัดเก็บขยะ แต่จากที่มองๆแล้วก็ไม่เหมาะที่จะมาอยู่ใกล้บ้านคน อย่างไรก็ตามจะเร่งดำเนินการตามขั้นตอนให้เร็วที่สุด