ตามนโยบายของ ผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 เนื่องด้วยสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้งเตือนเรื่องเฝ้าระวังพื้นที่น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งมีผลมาจากพายุวิภาเคลื่อนตัวผ่านประเทศไทย ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องอุทกภัย และในทุกปีที่ผ่านมา มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากภัยพิบัติทางธรรมชาติกันเป็นจำนวนมาก
วันนี้ 23 ก.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตรี อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 จึงสั่งการให้ พันเอก พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณะภัย กรมทหารราบที่ 29 ทำการตรวจความพร้อมการช่วยเหลือประชาชน และอุปกรณ์เครื่องมือบรรเทาสาธารณภัยของหน่วย ณ ลานหน้าศาลาทัพหลังชนะศึก กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 29 ซึ่งประกอบด้วย อาทิ อุปกรณ์ตรวจวัดกระแสไฟฟ้ารั่ว ชุดครัวสนาม วิทยุสื่อสาร ไฟฉาย เสื้อชูชีพ ชุดเครื่องมือช่าง อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น รถยนต์บรรทุก (FTS) รวมถึงเรือท้องแบน รถบรรทุก เครื่องมือช่วยเหลือ และ ชุดเสนารักษ์เคลื่อนที่ เป็นต้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมแผนการปฏิบัติในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ กรณีเกิดภัยพิบัติจะสามารถดำเนินการเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ โดยกำลังพลทุกนายล้วนมีความพร้อมตามที่ได้ฝึกมาเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ให้มีการร่วมบูรณาการกับส่วนราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ตลอดจนให้มีการเตรียมความพร้อมแผนการปฏิบัติที่สำคัญอื่น ๆ รวมถึงให้มีการซักซ้อมการปฏิบัติ และความเข้าใจของกำลังพลตามหน้าที่ เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการช่วยเหลือประชาชน เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้สอดคล้อง กับสถานการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามสภาวะการณ์ในปัจจุบัน
พันเอก พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กรมทหารราบที่ 29 กล่าวว่า ในการตรวจสภาพความพร้อมด้านบรรเทาสาธารณภัย เป็นไปตามนโยบายของ ผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 1 และ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ที่มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชน ด้วยปัจจุบันสภาพอากาศมีการผันแปรไม่แน่นอน ประชาชนบางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ อุทกภัย เป็นต้น ทั้งนี้ กรมทหารราบที่ 29 จึงได้มีการจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กรมทหารราบที่ 29 ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติเป็นสำคัญ รวมทั้งวิธีการใช้งานต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานได้จริง ไม่มีการชำรุดหรือเสียหาย ที่อาจจะส่งผลให้เกิดอุปสรรคในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตลอดจนให้มีความพร้อมในการจัดเตรียมกำลังพลยุทโธปกรณ์ การเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเพราะเป็นภารกิจสำคัญที่ "กองทัพบก" ได้มอบหมายให้ปฏิบัติ "เพราะทหารต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส"
/////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์