28 มิถุนายน 2561 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน เปิดเผยว่าได้ประสานงานสำนักนายกรัฐมนตรีส่งหนังสืออย่างเป็นทางการตามระบบราชการถึงนายกรัฐมนตรีและสำเนาส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเสนอมาตรการเร่งด่วนในการช่วยเหลือวิกฤติราคาพืชผลการเกษตรโดยเฉพาะสับปะรดในพื้นที่ 30 จังหวัดซึ่งราคาตกต่ำสุดวิกฤติมากในปัจจุบัน
นางมัลลิกา กล่าวว่า ราคาตลาด 70 สตางค์ถึง 1 บาทที่เกษตรกรนำมาวางขายข้างถนนสายซุปเปอร์ไฮเวย์ระหว่างจังหวัดทางภาคเหนือ เช่น ถนนสายลำปาง-พะเยา-เชียงราย ปัจจุบันนี้เป็นราคาที่ตกต่ำที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นเกษตรกรสับปะรด วันนี้วิกฤติสุดแล้วซ้ถ้าช่วยไม่ทันเวลาจะเป็นภาระเกษตรกรในการเก็บทิ้งอีกด้วย
ตนจึงเสนอนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจแก้ไขปัญหาเร่งด่วนสามารถประการคือ 1.อนุมัติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจัดงบประมาณกลางผ่านระบบท้องถิ่นหรือราชการที่ถูกต้องโปร่งใสให้เกิดการรับซื้อสับปะรดในราคาพยุง (ซึ่งราคาพยุงคือกิโลกรัมละ 5 บาททุกจังหวัด) 2.ใช้อำนาจสั่งการให้รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์หาตลาดส่งออกสับปะรดสดเร่งด่วนที่สุด 3.ใช้อำนาจคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจวางแผนตลาดรองรับฤดูกาลต่อไปของทุกผลผลิตทางการเกษตร
ทั้งนี้เป็นเพียงช่องทางเดียวในเวลาที่วิกฤตเช่นนี้โดยเฉพาะมาตรการแรก ยกเว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลจะรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนทั้งราชการเอกชนและรัฐวิสาหกิจประสานงานตลาดกลางทุกจังหวัดรับซื้อในราคาพยุงช่วยกันทั้งหมดจึงจะแก้ได้แต่ก็ยังเสี่ยงต่อการไม่ทันสถานการณ์เนื่องจากสับปะรดปีนี้มีผลผลิตมากกว่าเดิมจากทั้งหมด 1,800,000 ตันเป็น 2,000,000 ตันแต่โรงงานสับปะรดกระป๋องมีโควต้าส่งออกเพียงแค่ 600,000 ตันต่อปีเท่านั้น
ขณะเดียวกันมูลนิธิมัลลิกาฯก็ได้ประสานงานเครือข่ายช่วยประชาชน ทั้งมูลนิธิแพร่น้ำใจ มูลนิธิม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เพื่อช่วยเกษตรกรระดับหนึ่งซึ่งวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2561 นี้จะนำมาเปิดตลาดนำร่องที่รับซื้อมาทั้งจะจำหน่าย ทั้งแจกจ่าย ให้กับประชาชนที่สนใจ