ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
อย่าหาทำ! ตม.ตาไว รวบสองผู้ต้องหาจีน ปลอมรอยตราประทับวีซ่าตบตาเจ้าหน้าที่ หวังขอต่อวีซ่าระยะยาว
05 ส.ค. 2568

   ตามนโยบายเน้นหนัก ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เกี่ยวกับการปราบปรามคนต่างด้าว ที่กระทำความผิดกฎหมายอาญา ในทุกรูปแบบอาชญากรรม โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายคนเข้าเมือง หนังสือเดินทางและตราประทับของทางราชการต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงของ สตม. ซึ่งพฤติการณ์ที่เป็นที่มาของการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นหลังจาก พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ที่รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ธวัชชัย หนองบัว ผกก.3 บก.ตม.1 และ ว่าที่ พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 กรณีสืบเนื่องมาจาก เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.2568 ที่ผ่านมา ได้มี MR.TSAI (ไซ) สัญชาติจีน (ไต้หวัน) อายุ 40 ปี ได้พา MR.ZHANG (จาง)  สัญชาติจีน อายุ 39 ปี มายื่นคำขออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อปฏิบัติงานช่างฝีมือให้กับบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ผ่านระบบสำหรับยื่นคำขอออนไลน์ ซึ่งผลการตรวจสอบคำขอเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้วเห็นว่า รอยตราประทับขาเข้าที่ปรากฏบนหนังสือเดินทางของ MR.ZHANG (จาง) 

เป็นการผ่อนผันการตรวจลงตราให้เข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อการท่องเที่ยว 60 วัน ซึ่งจะไม่สามารถขออยู่ในราชอาณาจักรต่อไปอีกได้ เนื่อจากขัดต่อระเบียบและหลักเกณฑ์ โดยเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ MR.ZHANG (จาง) เดินทางออก หรือขอเปลี่ยนประเภทการตรวจ ลงตราก่อนและต้องมายื่นเอกสารด้วยตนเอง
   ต่อมาตามวันเวลาเกิดเหตุ คือวันที่ 24 ก.ค. 68  MR.TSAI (ไซ) จึงได้พา MR.ZHANG (จาง) มาพบเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด้วยตนเอง ณ ศูนย์บริการของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 บริเวณชั้น 6 ห้างสรรพสินค้า One Bangkok ถ.วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดย MR.ZHANG (จาง)  ได้ยื่นหนังสือเดินทางสัญชาติจีนของตน เพื่อแสดงให้กับเจ้าหน้าที่พิจารณา เจ้าหน้าที่เห็นความผิดสังเกต เกี่ยวกับรอยตราประทับขาเข้า ที่ปรากฏบนหนังสือเดินทางฉบับดังกล่าว มีร่องรอยการขีดฆ่าและแก้ไขตัดทอน โดยเติมข้อความ เปลี่ยนจากเดิมคำว่า “ผ.60-ม.17” เป็น “NON-IB” เพื่อให้สามารถยื่นคำร้องขออยู่ในราชอาณาจักรต่อไปได้ จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นให้ทราบและประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 นำโดย พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 และ พ.ต.ท.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 มาตรวจสอบ โดยจากการสอบปากคำเบื้องต้นในชั้นจับกุม MR.ZHANG (จาง) ปฏิเสธว่า ตนมิได้เป็นผู้ขีดฆ่าและแก้ไขข้อความบนรอยตราประทับของหนังสือเดินทางของตน แต่ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า MR.TSAI (ไซ) ซึ่งพาตนมาต่อวีซ่าเป็นผู้ทำการขีดฆ่าและแก้ไขเติมข้อความลงในหนังสือเดินทางของตน ก่อนเข้ามายื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงสอบถาม MR.TSAI (ไซ) พร้อมให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ปลอมขึ้นซึ่งดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราอันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับเดินทางต่างประเทศ” และแจ้งข้อกล่าวหา MR.ZHANG (จาง)  ด้วยว่า “ใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราที่ทำปลอมขึ้น” ส่ง พงส.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สตม. ขอเรียนประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนว่า การกระทำดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นด้วยเจตนาทุจริตก็ดี หรือด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ความผิดต่อหนังสือเดินทาง หรือรอยตราประทับที่ใช้ในการเดินทางระหว่างประเทศ ยังถือเป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่ชาติและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้กำชับและกวดขันในการปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างจริงจังมาโดยตลอด โดยความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษสูง คือจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท นอกจากนี้ การใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราที่ทำปลอมขึ้น ก็มีโทษเช่นเดียวกัน หากพี่น้องประชาชน หรือผู้สื่อข่าว มีเบาะแส หรือพบการกระทำที่เป็นความผิดในลักษณะดังกล่าว กรุณาแจ้งสายด่วน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบทันที ที่หมายเลข 1178

สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 กรกฎาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
04 ส.ค. 2568
การเลือกตั้งนายกองค์การบริหาร ส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ลำสุดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นการเลือกตั้ง ท้องถิ่นทั่วประเทศตามวาระครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง แม้จะมีเพียง 47 จังหวัดเท่านั้น เนื่องจากมีการ ลาออกก่อนกำหนดไปก่อนหน้านี้หลายจังหวัด อย่างไรก็ต...