กรมการค้าต่างประเทศผนึกกำลัง 5 ชาติ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไนและฟิลิปปินส์ จัดงานแสดงสินค้า IMT-GT และ BIMP-EAGA ครั้งที่ 4 ที่สงขลา มั่นใจช่วยผู้ประกอบการ SMEs ใน 14 จังหวัดภาคใต้มีโอกาสค้าขายทั้งในและต่างประเทศ หลังเปิดเวทีให้นำสินค้าดีเด่นแต่ละจังหวัดมาจัดแสดง พร้อมช่วยเชื่อมโยงจัดให้มีการเจรจาธุรกิจ
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้า IMT-GT & BIMP-EAGA Trade Fair 2018 ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 19-22 กรกฎาคม 2561 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภายใต้แนวคิด “The Future of Agricultural Product Innovation and Environment” โดยได้นำผู้ประกอบการจาก 14 จังหวัดภาคใต้ของไทยร่วมกับสินค้าจากผู้ประกอบการอีก 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไนและฟิลิปปินส์ จำนวนรวม 230 คูหา มาจัดแสดง เพื่อเป็นการเปิดตัวและแนะนำสินค้า สร้างโอกาสในการค้าขาย และขยายโอกาสในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ
“กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าจาก 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ SMEs ของแต่ละจังหวัด โดยสินค้าที่นำไปจัดแสดง เป็นสินค้าเด่นของแต่ละจังหวัดในกลุ่มอาหาร อาหารแปรรูป สินค้าฮาลาล ของใช้ ของตกแต่งบ้าน ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการนำสินค้ามาเปิดตัวให้เป็นที่รู้จัก แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ ที่จะได้สร้างเครือข่าย ทั้งกับผู้ประกอบการในประเทศ และผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศ ที่ได้มาร่วมงานครั้งนี้ด้วย”
ทั้งนี้ ในการจัดงาน กรมฯ ยังได้นำสินค้าไฮไลท์ที่มีศักยภาพของไทยไปจัดแสดงด้วย คือ สินค้าเกษตรนวัตกรรม โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตจากข้าว ทั้งขนมขบเคี้ยว อาหารแปรรูปจากข้าว ผลิตภัณฑ์ข้าว น้ำมันรำข้าว เครื่องสำอางทำจากข้าว เป็นต้น ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสร้างโอกาสในการค้าขาย และสนับสนุนให้สินค้าเกษตรนวัตกรรมของไทยเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น
นายอดุลย์กล่าวว่า ในวันเปิดงานวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานร่วมกับรัฐมนตรีจาก 4 ประเทศ จากนั้น จะมีการหารือระหว่างรัฐมนตรี เพื่อขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนภายใต้กรอบ IMT-GT และ BIMP-EAGA และการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการจาก 4 ประเทศ โดยคาดว่าจะมีการจับคู่ธุรกิจเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 20 คู่ มีมูลค่าซื้อขายทันทีไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และคาดว่าจะมีมูลค่าซื้อขายภายใน 1 ปี ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะมีการจัดสัมมนาให้ความรู้ เช่น การทำการค้าชายแดน สินค้าฮาลาล สินค้าเกษตรนวัตกรรม การจัดแสดงผลงานสินค้าเกษตรนวัตกรรมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกิจกรรม YEN-D Frontier @ Songkla เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการแนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เป็นการจัดขึ้นครั้งที่ 4 โดยจัดหมุนเวียนกันในประเทศที่เป็นสมาชิก ครั้งแรก จัดที่มาเลเซีย ปี 2555 ครั้งที่ 2 จัดที่ฟิลิปปินส์ ปี 2557ครั้งที่ 3 จัดที่อินโดนีเซีย ปี 2559 และครั้งที่ 4 จัดที่ประเทศไทย โดยมีผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า 230 คูหา มีผู้เข้าร่วมงานทั้งในและต่างประเทศประมาณ 2,000 คน คาดว่าจะมีการซื้อขายภายในงานไม่ต่ำกว่าวันละ 2 ล้านบาท
โดยกรอบ IMT-GT คือ แผนงานพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายระหว่างประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ตั้งขึ้นปี 2536 เพื่อร่วมมือกันในการพัฒนาเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค โดยอินโดนีเซียมี 10 จังหวัดทางตอนเหนือ มาเลเซีย 8 รัฐ และไทย 17 จังหวัดภาคใต้ ส่วนกรอบ BIMP-EAGA เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจอาเซียนด้านตะวันออก บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ ตั้งขึ้นเพื่อร่วมมือด้านการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุน ซึ่งไทยไม่ได้อยู่ในกรอบนี้ แต่การร่วมมือกันในการจัดงานแสดงสินค้าครั้งนี้ ทำให้ไทยสามารถเข้ามาเกี่ยวข้อง และสามารถใช้ประโยชน์ในการร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวร่วมกับสมาชิก BIMP-EAGAได้