กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ แนะผู้ประกอบการไทยหาทางจับมือแบรนด์นาฬิกาดังสวิตเซอร์แลนด์ ขยายตลาดการซื้อขายนาฬิกาผ่านช่องทางออนไลน์ หลังผู้ผลิตชื่อดังหลายราย หันมาขายสินค้าผ่านช่องทางนี้กันมากขึ้น เหตุยอดขายในร้านแบบดั้งเดิมชะลอตัว
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ถึงทิศทางการขายสินค้าออนไลน์สำหรับนาฬิกาแบรนด์ดัง โดยพบว่า ขณะนี้แบรนด์นาฬิกาสวิสชื่อดังหลายรายได้เริ่มหันมาจับตลาดอีคอมเมิร์ซ เช่น การโฆษณาโปรโมชั่นลดราคาบนเว็บไซต์ของตนเองหรือเว็บไซต์ตัวแทนอื่นๆ จากเดิมที่เน้นการจำหน่าย ภายในร้าน และให้ลูกค้าเข้าไปเลือกซื้อสินค้าภายในร้านเท่านั้น
“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นาฬิกายี่ห้อดังๆ หลายเจ้าต้องหันมาพึ่งตลาดออนไลน์มากขึ้น เพราะยอดขายที่ตกต่ำลงเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน ในปี 2015 และ 2016 และยังมีการบูมของตลาดชอปปิ้งออนไลน์ในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในจีน และในสหรัฐฯ ทำให้นาฬิกาแบรนด์ดังๆ ในสวิสได้หันมาบุกเบิกตลาดออนไลน์กัน มากขึ้น”
สำหรับนาฬิกาแบรนด์ดังที่ได้หันมาใช้ช่องทางออนไลน์แล้ว เช่น Roger Dubuis ซึ่งมีราคาขายเฉลี่ย 60,000-80,000 สวิสฟรังค์ (1 สวิสฟรังค์ ประมาณ 33 บาท) ได้เริ่มศึกษาช่องทางการขายสินค้าออนไลน์แล้ว Swatch มีการเปิดตัวเว็บไซต์ ขายนาฬิกาออนไลน์ตั้งแต่ปี 2001 แต่เน้นขายนาฬิการะดับกลางและล่าง เฉพาะในตลาดที่ยังไม่มีผู้จัดจำหน่ายหรือร้านค้าของตัวเอง และ Formex ซึ่งเป็นแบรนด์นาฬิกาสำหรับ คนเล่นกีฬาผาดโผน ก็มีการเปิดขายออนไลน์แล้ว
ขณะเดียวกันยังพบว่า Omega ได้เริ่มขายนาฬิกา Speedmaster รุ่นลิมิเต็ดทางออนไลน์ และเปิดตัวร้านค้าออนไลน์แห่งแรกในสหรัฐฯ ซึ่งเรียกความสนใจจากผู้บริโภคได้มาก และ Longines ได้นำกลยุทธ์คล้ายกันนี้มาปรับใช้ และคาดว่าจะมีอีกหลายแบรนด์ที่ทำตาม
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีหลายแบรนด์เริ่มปรับตัวเพิ่มช่องทางการขายของออนไลน์มากขึ้น แต่ Rolex ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีคนรู้จักและขายดีมากที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ พบว่า ยังไม่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนกลยุทธ์ เพราะถือเป็นยี่ห้อที่อนุรักษ์นิยมมากที่สุด และใช้เวลานานในการพิจารณาตัดสินใจใดๆ จึงคาดกันว่า Rolex จะเป็นแบรนด์สุดท้ายที่จะเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจตามรอยแบรนด์อื่น นอกจากมีข้อมูลมาพิสูจน์ได้ว่าจะขายดีมากกว่าเดิม หากเพิ่มช่องทางออนไลน์
“แม้ว่าผู้ผลิตนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ที่ค่อนข้างนิยมวิธีการซื้อขายสินค้าในร้านค้าแบบดั้งเดิม ก็ไม่อาจต้านทานกระแสดิจิทัลได้ และเริ่มมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การทำตลาดใหม่ โดยใช้ช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่อยู่ในธุรกิจที่จะใช้โอกาสนี้ร่วมมือกับแบรนด์นาฬิกาสวิสในการทำตลาดออนไลน์ จากการที่ผู้บริโภคทั้งในไทยและในเอเชียที่นิยมสินค้าแบรนด์นาฬิกาสวิส ซึ่งน่าจะ ทำตลาดและขายสินค้าได้ดีขึ้น”นางจันทิรากล่าว