“พาณิชย์” เผยโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐแบบใช้โทรศัพท์มือถือรับชำระเงินจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสุดฮอต ล่าสุดมีร้านค้ารายย่อยสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 15,000 ราย เตรียมจัดส่งรายชื่อล็อตแรก 5,000 ราย ห้กรมบัญชีกลางอนุมัติ พร้อมเดินหน้าระดมร้านค้าเข้าร่วมโครงการเต็มสูบ ตั้งเป้า100,000 ราย มั่นใจช่วยกระจายรายได้ให้กับร้านค้ารายย่อย และเพิ่มทางเลือกให้ผู้ถือบัตรจับจ่ายใช้สอยได้หลากหลายขึ้น
นายวิชัย โภชนกิจ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดตัวโครงการธงฟ้าประชารัฐโดยใช้โทรศัพท์มือถือ กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดรับสมัครร้านค้ารายย่อยให้เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. จนถึงปัจจุบัน มีร้านค้าได้ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 15,000 ราย โดยกระทรวงฯ ได้จัดส่งรายชื่อในล็อตแรกให้ กรมบัญชีกลางอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการแล้ว 5,000 ราย ส่วนร้านค้าที่เหลือจะทยอยส่งรายชื่อผู้สมัครให้กรมบัญชีกลาง วันละ 3,000-5,000 ราย และกรมบัญชีกลางจะส่งให้ธนาคารกรุงไทยนำเข้าระบบได้ตั้งแต่วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะสามารถ รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการชำระราคาสินค้าได้ทันทีเมื่อได้นำเข้าสู่ระบบถูกต้องแล้ว
“กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งเปิดรับสมัครร้านค้าเข้าร่วมโครงการผ่านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศถึงปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่องมากกว่า 15,000 รายแล้ว และจะเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานเดินหน้าประชาสัมพันธ์ และอำนวยความสะดวกให้กับร้านค้าในการสมัครเข้าร่วมโครงการอย่างเต็มที่” นายวิชัยกล่าว
ในโอกาสนี้ กระทรวงพาณิชย์ขอเชิญชวนร้านค้าพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับประชาชน เช่น ร้านหนูณิชย์ ตลาดต้องชม ตลาดกลางสินค้าเกษตร ให้สมัครเข้าร่วมโครงการ โดยเบื้องต้นตั้งเป้าร้านที่จะสมัครเข้าร่วมโครงการแยกเป็นร้านอาหาร 20,000 ร้าน, ร้านค้าในตลาดสด เช่น ขายเนื้อหมู ไก่ ปลา ไข่ไก่ 30,000ร้าน, ร้านค้าในตลาดต้องชม 3,000 ร้าน ร้านค้าในตลาดกลางผักและผลไม้ 2,000 ร้าน และร้านขายผลิตภัณฑ์ชุมชน รถเร่ 2,000 คัน โดยกระทรวงฯ มั่นใจว่าจะมีร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 100,000 ราย ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้
นายวิชัยกล่าวว่า ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับประโยชน์จากจำนวนผู้ซื้อที่เป็นผู้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากขึ้น และมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงผู้ซื้อทั่วไปที่เห็นว่าราคาสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐจะช่วยลดภาระค่าครองชีพได้ถือเป็นการกระจายรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้กับร้านค้ารายย่อยอีกทางหนึ่ง ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะมีทางเลือกในการจับจ่ายใช้สอยในการซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น ทั้งการซื้อสินค้าจากร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่ติดตั้ง เครื่องรูดบัตร EDC และร้านค้ารายย่อยที่รับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นทางมือถือ ซึ่งจะกระจายตัวอย่างทั่วถึงทุกชุมชน นอกจากนั้น ยังเป็นการช่วยเหลือผู้ผลิตสินค้าชุมชนในท้องถิ่นให้สามารถจำหน่ายสินค้าผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่ได้เปิดรับสมัครใหม่ได้มากขึ้นด้วย
สำหรับร้านค้ารายย่อยที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องใช้ในครัวเรือน สินค้าเพื่อการศึกษา สินค้าวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม ยารักษาโรค ผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน มีทำเลที่ตั้งแน่นอนและจำหน่ายสินค้าเป็นประจำ ถ้าไม่มีที่ตั้งแน่นอนจะเป็นรถยนต์เร่ขายสินค้าก็ได้ แต่ต้องไม่เคยถูกเพิกถอนสิทธิการติดตั้งเครื่องรูดบัตรหรือไม่เคยปฏิเสธหรือขอคืนหรือยกเลิกการติดตั้งเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องมีโทรศัพท์หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ที่รองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Version Kitkat 4.4 ขึ้นไปหรือระบบปฏิบัติการ IOS Version 9.0 ขึ้นไป และต้องสามารถเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ในการรับชำระ ค่าสินค้าได้
ส่วนขั้นตอนการสมัคร สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.moc.go.th หรือรับใบสมัครและ สมัครได้ที่ ศูนย์บริการประชาชนกระทรวงพาณิชย์ ชั้น3 (อาคารริมน้ำ) กระทรวงพาณิชย์ หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด และยังเปิดรับสมัครทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับด้วย ที่กรุงเทพฯ ส่งที่กองบริหารการพาณิชย์ภูมิภาค สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 563 ถนนนนทบุรี ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000 โดยระบุมุมซองว่า “สมัครร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ” ต่างจังหวัด ส่งที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่สถานประกอบการตั้งอยู่ โดยระบุมุมซองว่า “สมัครร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ”
ทั้งนี้ หลังจากยื่นใบสมัครแล้ว เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้องและรวบรวมรายชื่อจัดส่งให้กรมบัญชีกลางเพื่ออนุมัติ เมื่อได้รับอนุมัติแล้วธนาคารกรุงไทยจะจัดส่งข้อความสั้น (SMS) ผ่านเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ผู้สมัครให้ไว้ และให้นำหนังสือรับรองที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ออกให้ พร้อมโทรศัพท์มือถือไปติดต่อธนาคารกรุงไทยสาขาที่ผู้สมัครมีภูมิลำเนาตั้งอยู่หรือใช้บริการ เพื่อขอเปิดใช้บริการ Net Bank ติดตั้งโปรแกรม “ถุงเงินประชารัฐ” และเปิดรหัสการใช้งาน จากนั้นสามารถเปิดจำหน่ายสินค้าโดยรับชำระเงินจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้เลย ส่วนเงิน ค่าสินค้า กรมบัญชีกลางและธนาคารกรุงไทยจะโอนเข้าบัญชีในวันทำการถัดไปหลังการจำหน่ายสินค้า
นายวิชัยกล่าวว่า ในส่วนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเดิมที่มีเครื่อง EDC กว่า 30,000 ร้านค้าทั่วประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นร้านค้ามืออาชีพ โดยจัดทำหลักสูตรพัฒนาร้านค้า เช่น ความรู้ด้านภาษี การบริหารจัดการร้านค้า เป็นต้น และร่วมมือกับสถาบันการศึกษาเพื่อดำเนินการทั่วประเทศกว่า 300 รุ่น ระหว่างเดือนกรกฎาคม–กันยายน 2561 และพัฒนาการบริหารจัดการร้านค้าโดยส่งเสริมให้มีศูนย์ประสานร้านค้าระดับตำบล อำเภอและจังหวัด เพื่อใช้เป็นศูนย์ในการรวบรวมผลิตภัณฑ์จากชุมชนกระจายไปยังร้านค้าธงฟ้าประชารัฐทั่วประเทศ เช่น กะปิ น้ำพริก ปลากรอบ ขนมพื้นบ้าน ข้าวสาร และผลิตผลทางการเกษตรอื่นๆ เช่น กล้วย สับปะรด ถั่วฝักยาว ฟักทอง เป็นต้น เพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตชุมชนให้มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นและเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐให้มากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน ได้กำชับให้พาณิชย์จังหวัดแจ้งให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐทุกร้านจัดให้มีมุมขายสินค้าชุมชน และสินค้าธงฟ้าประชารัฐราคาประหยัด เพื่อเป็นทางเลือกในการลดค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรและประชาชนทั่วไป หากมีการฝ่าฝืนหรือไม่ให้ความร่วมมือ ให้ดำเนินการตักเตือนให้ปรับปรุงภายใน 7 วัน และหากยังเพิกเฉยจะถูกถอดถอนรายชื่อจากร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เพื่อจัดหาร้านค้าที่มีความพร้อมเข้าร่วมโครงการทดแทน
“กระทรวงพาณิชย์มีความมั่นใจว่าร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ จะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เพราะสร้างรายได้หมุนเวียนในชุมชนทั่วประเทศกว่า 4,000 ล้านบาทต่อเดือน” นายวิชัยกล่าว