นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเสนอร่างกฎหมายยกเลิก สข. ว่าหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ท้วงติงการรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ว่ามีลักษณะชี้นำให้เห็นด้วยกับการยกเลิก สข. และ มีช่องทางการรับฟังความคิดเห็นทางเดียว คือผ่านเว็บไซต์เท่านั้น และมีเวลารับฟังความคิดเห็นที่น้อยเกินไป เป็นที่น่ายินดีว่าขณะนี้กรุงเทพมหานครได้เปิดรับฟังความคิดเห็นหลายช่องทางมากขึ้น และได้ขยายเวลารับฟังความคิดเห็นจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
ขณะที่การรับฟังความคิดเห็น เมื่อมีการเสนอกฎหมาย คือ เป็นการปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่เหตุผลในการเสนอกฎหมาย หรือ แก้ไขกฎหมายนับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชน และสังคมควรจะรับรู้อย่างเปิดเผย แต่ปรากฏว่าการเสนอร่างกฎหมายยกเลิก สข. ครั้งนี้ประชาชนโดยทั่วไปไม่ทราบเลยว่าเหตุผลที่แท้จริงของความพยายามออกกฎหมายยกเลิก สข.คืออะไรอยู่ดีๆ ก็มีร่างกฎหมายยกเลิก สข. ออกมาให้มีการรับฟังความคิดเห็น โดยไม่มีการบอกเหตุผลที่มาที่ไป และไม่มีการถกแถลงว่าทำไมต้องยกเลิก สข. แต่อย่างใด ทั้งๆ ที่ตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมา สข. ส่วนมากได้ทำหน้าที่เป็นผู้แทนประชาชนที่ทำหน้าที่รับใช้ใกล้ชิดประชาชนในงานท้องถิ่นระดับเขต เป็นที่พึ่งของชาวบ้านทั่วไปในการนำปัญหาความเดือดร้อนไปสู่การแก้ไข ที่สำคัญที่สุดก็คือ สข. มาจากการเลือกตั้งของประชาชนจากเขตต่างๆ สข. คือ ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนประชาชน เป็นการกระจายอำนาจให้ประชาชนได้กำหนดผู้แทนทำหน้าที่ระดับเขตด้วยตนเอง จึงไม่ควรยกเลิกการกระจายอำนาจไปสู่การรวมศูนย์อำนาจโดยผู้บริหารของเขตอย่างที่ร่างกฎหมายยกเลิก สข. กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้ ทางพรรคประชาธิปัตย์จึงขอทราบเหตุผลที่แท้จริงของผู้เกี่ยวข้องว่าเหตุผลที่ต้องการยกเลิก สข. คืออะไร